- รายละเอียด
-
เผยแพร่เมื่อ วันเสาร์, 10 พฤศจิกายน 2555 13:53
-
เขียนโดย gonghoog


พระธรรมโฆษาจารย์กุมารชีพ 鳩摩羅什
鸠 摩 罗 什 大 师 画 传
แปลและเรียบเรียงโดยวรรณพร เรืองรองปัญญา

|
一千五百年前,在中国北方的割据政权中,先后有两个国君为了一位西域高僧而发动战争。最后,这位高僧被秦国君姚兴恭迎至长安。他,就是享誉西域和中土的佛教学者、著名的佛经翻译家鸠摩罗什(梵文kumarajiva,公元344--413)
กว่า หนึ่งพันห้าร้อยปีล่วงมาแล้ว ณ เขตแบ่งแยกอำนาจการปกครองทางเหนือของประเทศจีน มีกษัตริย์ 2 พระองค์ได้ทำศึกสงครามกันเพื่อช่วงชิงพระสงฆ์รูปหนึ่ง(จากประจิมประเทศ) ซึ่งมีสติปัญญาเฉียบแหลม ในที่สุดพระสงฆ์รูปนี้ได้ถูกนิมนต์ไปนครฉางอานโดยกษัตริย์เอี๋ยวซิงแห่ง ราชวงศ์ฉิน พระสงฆ์รูปนี้คือ กุมารชีพ ผู้เชี่ยวชาญพุทธศาสนาและนักแปลคัมภีร์มีชื่อ ซึ่งได้รับการยกย่องทั้งจากประจิมประเทศและประเทศจีน พระสงฆ์รูปนั้นคือ กุมารชีวะ ปี พ.ศ.334-413
|
|
鸠摩罗什的父亲鸠摩罗炎是相门之子,他家世代为相,系天竺过婆罗门族人。然而。出身于相门的鸠摩罗炎却对政治不感兴趣,立志出家修行,为此。罗炎的父亲 决定提早把相位传给自己的儿子。罗炎知道这一决定后,在一个寂静的夜晚离家出走,到寺里受了具足戒,成为一名庄严的比丘。
กุมารชีพ เป็นบุตรชายของกุมารายนะ ตระกูลของกุมารายนะเป็นอัครมหาเสนาบดีมาหลายชั่วคน ท่านกำเนิดในวรรณะพราหมณ์อันสูงศักดิ์แห่งชมพูทวีป แต่กลับไม่สนใจทางด้านการเมือง ตั้งใจปฏิญาณจะออกบวชบำเพ็ญธรรม ด้วยเหตุนี้บิดาของกุมารายนะจึงรีบตัดสินใจจะยกตำแหน่งอัครเมสาบดีให้แก่ บุตรชายเมื่อกุมารายนะทราบเรื่องการตัดสินใจของบิดา ดังนั้นในคืนอันสงบเงียบกุมารายนะ จึงได้หนีจากบ้านไปที่วัดแห่งหนึ่งเพื่ออุปสมบท เป็นพระภิกษุที่เคร่งในธรรมวินัย
|
|
罗炎出家后,唯恐父亲仍要逼他继承相位,便千里迢迢,远走佛教盛行的龟兹。一路上,他翻山越岭,跨过湍急的河流,穿越塔克拉玛干沙漠,走过野兽出没的森林。白天摘野果充饥,夜里在山洞过夜。他忘却了困难,感到像逃出笼子的鸟儿那样舒畅愉快。
ถึงแม้กุมารายนะได้ออกบวชแล้ว ก้ยังวิตกว่าบิดาจะบังคับให้กลับไปสืบทอดตำแหน่งจึงได้ตัดสินใจออกจาริกไป ยังแคว้นกุฉา ซึ่งเป็นเมืองที่นับถือพุทธศาสนาอย่างแพร่หลายระหว่างทางท่านได้ฝ่าฟัน อุปสรรคนานัปการ ปีนภูเขาอันสุงชัน ข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ฝ่านทะเลทรายตากลามากัน และป่าดงพงไพรที่มีสัตว์ร้ายชุกชุม กลางวันประทังความหิวด้วยผลไม้ป่า ค่ำคืนนอนพักรมตามถ้ำ แต่ท่านก็ไม่รู้สึกถึงความยากลำบากทั้งมวลที่ได้รับ กลับรู้สึกเหมือนนกน้อยที่หลุดพ้นจากรง มีทั้งความสุขและอิสระ
|
|
龟兹国位于中国西北,既现在的新疆塔里木盆地的北侧的库车县一带。年轻的龟兹国王白纯听说罗炎舍弃荣华富贵出家,十分仰慕,亲自出城,把形容憔悴而气质高贵优雅的罗炎迎进王宫。
แคว้น กุฉา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ปัจจุบันคืออำเภอคู่เชอ ซึ่งอยู่ด้านเหนือของถ้ำหลี่มู่เผิน แห่งมณฑลซินเจียง กษัตริย์ของแคว้นกุฉาซึ่งมีพระชนม์มายุเยาว์วัยพระนามว่า ไป่ฉุน ทรงทราบข่าวเกี่ยวกับการสละยศถาบรรดาศักดิ์เพื่อออกบวชของกุมารายนะ ทรงมีศรัทธาปสาทะในตัวกุมารายนะมาก จึงได้เสด็จออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง และนิมนต์กุมารายนะซึ่งมีสีหน้าอิดโรยจากการเดินทาง แต่ก็ยังคงบุคลิกที่สง่างาม ให้เข้าไปในวังด้วยกัน
|
|
罗炎在王宫受到了热情的款待,到了第三天,国王便宣布请罗炎担任国师的决定。罗炎无法推托,只得留在宫中。再说国王的妹妹公主耆婆已年届二十,生得聪明美丽,才智出众,慕名求婚者很多,却没有一位能让她看中的。她每天除了在花园里散步,便是在闺房安安静静的看书读经。
กุมารายนะได้รับการรับรองอย่างอบอุ่นจากกษัตริย์ไป่ฉุน หลังจากนั้น 3 วัน กษัตริย์ไป่ฉุนทรงตัดสินพระทัยประกาศแต่งตั้งให้กุมารายนะรับตำแหน่งเป็นพระ ราชครู กุมารายนะไม่สามารถอ้างเหตุผลปฏิเสธได้จึงต้องพำนักอยู่ในวัง กล่าวถึงพระขนิษฐาของกษัตริย์ไป่ฉุน พระนามว่าองค์หญิงฉีผอ ทรงมีพระชนมายุ 20 พรรษา พระสิริโฉมงดงามสติปัญญาหลักแหลมเหนือผู้ใด มีผู้ใฝ่ผันจะสู่ขอมากมาย แต่ไม่มีใครสักคนที่องค์หญิงฉีผอถูกตาต้องใจเลย ทุกๆวันองค์หญิงฉีผอ นอกจากเดินเล่นอยู่ในอุทยานแล้วก็ใช้เวลาอยู่ในห้องส่วนพระองค์อ่านหนังสือ ศึกษาธรรมะ
|
|
从天竺国来了贵宾的事,耆婆也有所闻,这天,她从闺房出来,在宫中碰见王兄正陪着一位陌生的男子走来。她刚想回避,被国王叫住了。国王为公主和罗炎做了介绍,罗炎恭敬的合掌致礼,公主看到这位温文尔雅的比丘,禁不住怦然心动,害羞地跑开去。องค์ หญิงฉีผอ พอจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับแขกผู้ทรงเกียรติที่มาเยือนจากชมพูทวีป วันหนึ่งขณะที่เสด็จออกจากห้องประทับ ก็เผชิญกับพระเชษฐาซึ่งเสด็จเคียงข้างมากับชายแปลหน้าผู้หนึ่ง ขณะที่คิดจะเดินเลี่ยง พระเชษฐาก็สั่งให้หยุดและแนะนำให้รู้จักกับกุมารายนะ กุมารายนะพนมมือแสดงความเคารพ เมื่อองค์หญิงได้ทอดพระเนตรเห็นพระภิกษุผู้มีบุคลิกงามสง่าสำรวม พระหทัยก็รู้สึกหวั่นไหวทันทีและรีบเดินจากไปอย่างเอียงอาย
|
|
国王把这一切都看在眼里。他正想让罗炎长久留在龟兹国,便准备亲自撮合这门亲事。过了几天,他让人把罗炎和公主都请来一手拉着一个,兴致勃勃的说:“你们真是天造地设的一对呀!”罗炎一时不知所措。尽管他深知国王的旨意是不能违抗的,但还是试图推托。
กษัตริย์ ไปฉุนทรงทอดพระเนตรเห็นและเข้าพระทัยทุกอย่าง พระองค์เองก็มีพระประสงค์จะให้กุมารายนะพำนักอยู่แคว้นกุฉาตลอดไป ดังนั้นจึงทรงวางแผนเตรียมการสู่ขอและจัดพิธีสยุมพรให้ด้วยพระองค์เอง หลายวันต่อมากษัตริย์ไป่ฉุนจึงรับสั่งให้พระขนิษฐาและกุมารายนะเข้าเฝ้า เมื่อทั้งสองมาถึงพระองค์ทรงกุมมือคนทั้งสองไว รับสั่งด้วยความพอพระทัยว่า “ท่านทั้งสองเสมือนคู่ที่ฟ้าดินสรรค์สร้างมาจริงๆ” ทันใดนั้น กุมารายนะรู้ตัวดีแต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร แม้จะเข้าใจดีว่าพระบัญชานั้นไม่อาจขัดขืนได้ แต่ก็ลองพยายามบ่ายเบี่ยง
|
|
罗炎向国王陈述自己的意见,可是不等他说完,国王的不高兴地说:“出家后难道不可以还俗吗?娶了妻子就不能再读经吗?”在国王的坚持下,罗炎只好答应这门婚事。他先依照佛教律仪,在当地高僧的见证下,舍戒还俗,脱下僧衣,穿上华丽的贵族服装。
กุ มารายนะพยายามอธิบายความคิดเห็นของตน แต่กษัตริย์ไป่ฉุนไม่รอให้กุมารายนะพูดจบ พระองค์ทรงกริ้วและรับสั่งว่า “ออกบวชแล้วก็ลาสิกขาบทได้มิใช่หรือ แต่งงานแล้วไม่สามารถศึกษาธรรมต่อไปได้หรือไร” ภายใต้การยืนกรานของกษัตริย์ไป่ฉุน กุมารายนะจำต้องตอบรับเรื่องพิธีสยุมพรและปฏิบัติตามพุทธพิธี ภายใต้การรู้เห็นเป็นพยานของพระเถระผู้ใหญ่ ละการถือศีลนุ่งจีวรและเปลี่ยนมาสวมใส่อาภรณ์อันสวยงามของผู้สูงศักดิ์
|
|
婚礼隆重的举行。国王和王后亲自把盏,祝福新人福慧双修,恩爱长久。大臣们举杯祝贺,脸上充满了笑容。公主美丽的容貌,含情的双眸,聪慧的谈吐和贤静的举止,使罗炎在现实面前不得不改变初衷。
พิธีสยุมพรจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ กษัตริย์และพระราชินีทรงเลี้ยงรับรองแขกและข้าราชบริพารด้วยพระองค์เอง ทรงอวยพรให้คู่ข่าวสาวมีความสุขรักกันชั่วนิรันดรืให้ทะนุถนอมและศึกษา บำเพ็ญธรรมพร้อมๆกันไป ข้าราชบริพารก็พร้อมใจถวายพระพรด้วยรอยยิ้มกันถ้วนหน้า ความงดงามแช่มช้อยและสายดาสดใสหวานซึ้งขององค์หญิงประกอบกับการสนทนาที่ เฉลียวฉลาด กิริยาท่าทางสงบเสงี่ยม ทำให้กุมารายนะยอมจำนนต่อความจริงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า และเปลี่ยนแปลงความตั้งใจโดยสิ้นเชิง
|
|
婚后不久,公主便怀孕了,罗炎看到公主腹部有一个美丽的红色圆形胎记,非常高兴,因为这是日后必生大智慧之子的征兆。公主怀孕后变得更加聪明。有一天, 他突然用流利的天竺语与罗炎谈起话来,这使她自己和罗炎都十分惊讶。从此,他们夫妻经常在一起讨论佛经,使公主对佛教教义有了深刻的了解,这天,宫女在与 公主谈北面山上的雀梨大寺和寺内的高僧。
หลังพิธีสยุมพรไม่นาน องค์หญิงก็ทรงพระครรภ์ กุมารายนะเห็นพระครรภ์มีสัณฐานกลมแดงงดงาม มีความปิติยินดีขึ้นมาว่าทารกในครรภ์ต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมล้นด้วย ปัญญามาถือกำเนิดแน่ หลังจากทรงพระครรภ์ องค์หญิงก็มีความเฉลียวฉลาดยิ่งขึ้น อยู่มาวันหนึ่งนางใช้ภาษาภารตะสนทนากันพระสวามีอย่างคล่องแคล่ว เหตุการณ์เช่นนี้ยิ่งทำให้สองสามีภรรยารู้สึกตื่นเต้นอัศจรรย์ใจ ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองท่านก็ได้แลกเปลี่ยนสนทนาธรรมซึ่งกันและกัน ทำให้องค์หญิงเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพุทธธรรมมากขึ้น วันหนึ่งนางกำนัลกำลังสนทนากับองค์หญิงถึงพระเถระผู้ใหญ่ในวัดเชวี่ยหลี่ ซึ่งตั้งอยู่ขนเขาทางทิศเหนือของแคว้นกุฉา
|
|
公主早就想去寺庙礼佛,于是就征得丈夫同意,邀请了几位王族妇女和大臣的夫人们,准备了几车物品,又请了几位德行高尚的比丘尼,坐上马车,在一个阳光明媚的日子里,向雀梨寺出发。僧人们按礼节接待了她们,安排她们在寺庙右边的女宾馆挂单。
องค์หญิงฉีผอมีพระประสงค์จะไปสักการบูชาพระอยู่แล้ว เมื่อได้รับการเห็นชอบจากพระสวามี ก็ทรงชักชวนภริยาข้าราชการผู้ใหญ่อีกหลายท่านจัดเตรียมข้าวของหลายคันรถ พร้อมทั้งนิมนต์ภิกษุณีที่มีวัตรปฏิบัติดตามและจิตใจบริสุทธิ์หลายรูป ขึ้นรถม้ามุ่งหน้าสู่วัดเชวี่ยหลี่ท่ามกลางแสงแดดสดใส องค์หญิงได้รับการต้อนรับตามธรรมเนียมจากวัดและจัดให้พำนักอยู่ห้องรับรอง อุบาสิกาที่อยู่ทางขวาของวัด
|
|
公主和同去的妇女们天天在寺内礼佛听法。有的妇女理解不了经义,公主就为她们讲解。一天,一位从天竺来的高僧用天竺语讲经,公主听的入了神。高僧讲毕。公主用流利的天竺语提问,这使大家都非常惊讶。
ทุกๆ วันองค์หญิงพร้อมผู้ติดตามจะไปสักการบูชาพระ และฟังเทศน์ศึกษาธรรม มีสตรีบางท่านไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคัมภีร์ องค์หญิงก็ทรงอธิบายให้ฟัง วันหนึ่งมีพระเถระผู้ใหญ่จากชมพูทวีปใช้ภาษาภารตะแสดงธรรม องค์หญิงทรงฟังอย่างเพลิดเพลินสนพระทัย เมื่อพระเถระเทศน์จบพระนางได้ใช้ภาษาภารตะหยิบยกปัญหาขึ้นถามอย่างคล่อง แคล่ว ทำให้ทุกคนที่ไปด้วยมีความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
|
|
寺里的一位叫达摩瞿沙的法师对大家说:“这一定是怀有大智慧之子的缘故。”他见大家不理解,又接着说:“舍利弗是佛陀座下智慧第一的大弟子,据说她母亲 怀孕时,变得智慧过人,连婆罗门中最负盛名的雄辩家梵志都辩不过他。舍利弗降生以后,他母亲又恢复到从前的样子了。”大家听了这番话,都为公主感到高兴。
ใน วัดแห่งนี้มีธรรมมาจารย์ท่านหนึ่งนามว่า “ธรรมโฆษะ” ได้อธิบายกับทุกคนว่า “เหตุที่องค์หญิงมีความสามารถพิเศษนี้ ในครรภ์ของพระนางคงมีทารกที่มีปัญญาหลักแหลมยิ่งใหญ่เป็นแน่” ท่านเห็นทุกคนยังไม่เข้าใจจึงอธิบายต่อว่า “พระสารีบุตรเป็นอัครสาวกที่มีปัญญาเป็นเลิศขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่ากันว่าขณะที่มารดาของพระสารีบุตรตั้งครรภ์ มารดาของท่าได้กลายเป็นคนที่มีสติปัญญาเหนือผู้อื่น แม้กระทั่งพราหมณ์นักโต้วาทะอันลือชื่อแห่งตระกูลพราหมณ์ก็ยังโต้สู้ไม่ได้ แต่หลังจากที่พระสารีบุตรถือกำเนิดแล้ว มารดาก็กลับกลายเป็นคนธรรมดาเช่นเดิม” เมื่อทุกคนได้ทราบความจริงแล้วต่างก็แสดงความยินดีกับองค์หญิง
|
|
从雀梨寺回宫后,出家的念头在公主的心里一点点滋长着。经过十月怀胎,孩子出生了,是一个健康的男婴。罗炎惊喜万分,给儿子取名鸠摩罗什,他感到很幸福,经常同妻子坐在摇篮边,看着自己的儿子。这孩子耳大面阔,鼻子高挺,相貌不凡。
เมื่อ กลับจากวัดเชวี่ยหลี จิตที่มุ่งมั่นจะออกบวชค่อยๆทวีขึ้นทีละน้อย เมื่อครบกำหนดสิบเดือนของการตั้งครรภ์ ก็ได้ให้กำเนิดทารกเพศชายที่มีพลานามันสมบูรณ์แข็งแรง กุมารายนะตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่งตั้งชื่อให้พระโอรสว่า “กุมารชีพ” ท่านรู้สึกว่าชีวิตมีความสุขมาก และมักจะนั้นอยู่ข้างอู่กับพระชายามองดูพระโอรสอย่างภูมิใจ พระโอรสทรงมีรูปหน้ากว้างใหญ่ หูยาว จมูกโด่ง หน้างามอย่างพิเศษทีเดียว
|

|
罗什出生以后,公主更加虔诚地信奉佛教。有一天,她向丈夫提出 要去出家。罗炎对她说:“你要出家我不反对,但是孩子还在吃奶,你忍心弃他不顾吗?”公主听了丈夫一番合乎情理的话,暂时打消了出家的念头。
หลัง จากให้กำเนิดพระโอรสกุมารชีพแล้ว องค์หญิงก็ยิ่งศรัทธาเสื่อมใสพุทธศาสนามากขึ้น อยู่มาวันหนึ่ง นางได้ตรัสกับพระสวามีเรื่องขอออกบวช ท่านบอกกับนางว่า “องค์หญิงจะออกบวช ข้าพเจ้าไม่คัดค้าน แต่ลูกน้อยยังต้องการน้ำนมมารดา ท่านจะทอดทิ้งทารกอย่างไม่ปราณีหรือ” องค์หญิงฟังคำพูดของพระสวามีซึ่งเปี่ยมด้วยเหตุผล จึงระงับเรื่องการออกบวชไปชั่วขณะ
|
|
后来,公主又生了一个儿子,取名弗沙提婆。公主尽心抚养两个儿子,把出家的念头搁置一边,可是弗沙提婆经常生病,给公主带来很大烦恼。且喜罗什像小树苗 一样茁壮成长着。一天,公主带着罗什在花园散步,随口教了他一首儿歌,谁知只教了一遍,他就会背了。又教了他另一首,刚教完,罗什就有腔有调的唱了起来。 公主又惊又喜。 ต่อมาภายหลังองค์หญิงให้กำเนิดพระโอรสอีกองค์พระนามว่า “ปุษยเทวะ” พระนางทรงทุ่มเททั้งกายใจเพื่อเลี้ยงดูพระโอรสทั้งสอง เรื่องออกบวชนั้นจึงเก็บไว้ก่อน ทว่าพระโอรสองที่ 2 ปุษยเทวะ เป็นเด็กค่อนข้างขี้โรคอ่อนแอ นำความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ใจให้องค์หญิงเป็นอย่างมาก โชคดีที่กุมารชีพน้อย เปรียบเสมือนต้นกล้าเติบใหญ่ขึ้นทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งองค์หญิงพากุมารชีพเดินเล่นอยู่ในอุทยาน พลางก็สอนกุมารชีพร้องเพลงเดินเพลงหนึ่งคิดไม่ถึงเลยว่าสอนรัองเพียงเที่ยว เดียว กุมารชีพก็สามารถท่องออกมาได้ นางสอนร้องอีกเพลงพอสอนจบ กุมารชีพก็ร้องตามได้ถูกต้องทันทีทั้งสำเนียงและท่วงทำนอง องค์หญิงทั้งตื่นเต้นและดีใจ
|
|
没过多久,体弱多病的弗沙提婆夭折了。公主非常伤心,她在骤然间经历了生的痛苦,死的悲哀。她想:我与弗沙提婆的因缘何其短暂啊!在生死、聚散面前,人的力量是那么的渺小!世上的一切,荣华、富贵、欢乐、权力,是那么不可靠!出家的念头再次在她的心头复萌。 ต่อมาไม่นาน ร่างกายที่อ่อนแอขี้โรคของปุษยเทวะ ทำให้เป็นเด็กอายุสั้นเสียชีวิตแต่เยาว์วัย องค์หญิงสุดโทมนัส พระนางได้ลิ้มรสความปวดร้าวยามที่มีชีวิตอนสุดโศกเศร้า เมื่อมีการตายจาก ฉุกคิดได้ว่า เพราะเหตุใดข้ากับบุตรชายปุษยะเทวะจึงมีบุญวาสนาต่อกันสั้นนั้น ภายใต้วัฏจักรการเกิด การพบปะและการพรากจาก ศักยภาพของมนุษย์ช่างน้อยนิดเหลือเกิน สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกไม่ว่าความรุ่งโรจน์ ร่ำรวย สุขสบาย อำนาจล้วนไม่อาจยึดถือได้เลย เรื่องการออกบวชที่คิดอยู่เสมอนั้นก็ผุดขี้นอีกครั้ง
|
|
四月的一天,阳光明媚,郁闷已久的公主带着几个宫女走出深宫,去郊外散心。白云漂浮,绿草青青,大自然的景色使公主的心情逐渐放松,她不知不觉地朝绿野深处走去。突然,一具白骨出现在眼前,公主刚舒展的心情一下子收紧,沉入到生与死的思考之中。闷闷不乐的回到王宫。 วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ องค์หญิงซึ่งตกอยู่ในห้วงทุกข์มานาน ได้เสด็จออกจากวังพร้อมนางกำนัล ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ชานเมือง แลเห็นเมฆขาวเลื่อนลอยบนท้องฟ้า ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม ทิวทัศน์ธรรมชาติทำให้องค์หญิงผ่อนคลายความทุกข์ลงได้บ้าง นางเดินต่อไปยังทุ่งหญ้าเขียวขจีเบื้องหน้า ทอดพระเนตรเห็นกระดูกคนตายทิ้งกองอยู่ ทันใดนั้น พระทัยที่เพิ่งจะเบิกบานกลับห่อเหี่ยวลงทันที เข้าสู่ห้วงคิดคำนึงเกี่ยวกับการเกิดการตายของมนุษย์ องค์หญิงจึงเสด็จกลังวังอย่างไม่เบิกบานพระทัย
|
|
公主无法忘记在郊外所看到的一切,于是决定出家。她坚决地对丈夫说:“罗炎,我决定出家做比丘尼,请你不要阻拦我。”罗炎再一次用爱心打动她,然而公主 决心已定。为了表示自己的决心,她拒绝进食,带了第六天,已是奄奄一息了。罗炎不能眼看爱妻死去,只得答应公主出家。他命令宫女端来食物,亲自一匙一匙的 给公主喂下去。 องค์หญิงไม่สามารถลือเรื่องทุกอย่างที่ทรงเห็นจากชานเมืองได้ ดังนั้นจึงตั้งพระทัยแน่วแน่ว่าจะออกบวช ทรงตรัสกับพระสวามีอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ท่านกุมารายนะ ข้าพเจ้าตั้งใจจะบวชเป็นภิกษุณีแน่แล้ว ขอท่านอย่าได้คัดค้านอีก” กุมารายนะปลอบประโลมนางด้วยความรักอีกหมายจะให้นางกลับใจ แต่องค์หญิงได้ตัดสินพระทัยในครั้งนี้ พอถึงวันที่หกพระวรกายก็อิดโรยเหมือนจะสิ้นพระชนม์อยู่รอมร่อ กุมารายนะทนเห็นภรรยารักตายต่อหน้าต่อตาไม่ได้ จึงจำใจอนุญาตให้องค์หญิงออกบวช กุมารายนะให้นางกำนัลยกพระกระยาหารมา แล้วป้อนให้องค์หญิงเสวยทีละคำด้วยตัวท่านเอง
|
|
第二天早晨,公主便剃发出家,不久正式受戒做了比丘尼。但是她没有立即住进寺庙,只在家中修行,因为她想把罗什一起带着出家,让他成为一个大智大慧的佛学家。只是这件事她还难以启齿,因为她知道罗什是罗炎唯一的儿子,罗炎是多么的爱他的儿子啊。
วันรุ่งขึ้น องค์หญิงก็ปลงพระเกศาออกบรรพชา เมื่อถึงเวลาตามพุทธบัญญัติก็เข้าพิธีอุปสมบทเป็นภิกษุณีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังพำนักอยู่ในวังไม่ได้พำนักที่วัดทันที เพราะองค์หญิงมีพระประสงค์จะพาพระโอรสกุมารชีพออกบวชด้วย เพื่อจะให้กุมารชีพกลายเป็นนักปราชญ์ทางพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ปราดเปรื่อง แต่นางไม่กล้าที่จะออกปากกับพระสวามี เพราะนางเข้าพระทัยดีว่าพระโอรสกุมารชีพเป็นหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียว ของท่านกุมารยนะ
|
|
罗什像是很懂母亲的心事,他告诉父亲,自己要跟着母亲出家。一向深明佛理的罗炎眼看着旗子出了家,现在儿子又要出家,感到这真是世事无常。他抚摩着儿子的头说:“你就随你母亲去吧。”罗什又对母亲说要随母亲出家,母亲笑着答应了。
กุมารชีพดูจะเข้าใจถึงหัวอกของพระมารดาจึงบอกกับบิดาว่า อยากจะออกบวชตามพระมารดา กุมารายนะเป็นคนเข้าใจพุทธธรรมอย่างลึกซึ้งมาตลอด ภรรยาได้ออกบวชแล้วยามนี้ลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวก็จะตามเสด็จออกบวช ด้วย จึงรู้สึกถึงความไม่ยั่งยืนของสรรพสิ่งที่เป็นอนิจจัง กุมารายนะลูบประโลมศีรษะพระโอรสอย่างรักใคร่เอ็นดูแล้วพูดว่า “เจ้าจงตามพระมารดาไปเถิด” กุมารชีพหันมาบอกกับพระมารดาว่าจะตามเสด็จออกบวชด้วย พระมารดาทรงตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
|
|
七岁的鸠摩罗什随着母亲开始了很艰难的佛学生涯。他们在一座寺庙里住了下来,罗什拜当时著名的小乘学者佛图舌弥为师,修习《阿毗昙经》。佛图舌弥看罗什 相貌聪明,便先教他十首偈子。想不到师傅刚念完,罗什就一字不差的背了出来。师傅又念了十首,罗什又一口气背了出来。罗什惊人的记忆力使佛图舌弥愣住了。
กุมาร ชีพมีอายุเพียง 7 ปีก็เริ่มตามเสด็จพระมารดาใช้ชีวิตบนเส้นทางการศึกษาพุทธธรรมอย่างยากลำเค็ญ สองแม่ลูกเข้าพำนักในวัดแห่งหนึ่ง กุมารชีพได้คารวะท่านพุทธสิงหะแห่งนิกายหินยานผู้มีชื่อเสียง เริ่มต้นศึกษาอภิธรรมสูตร ท่านอาจารย์พุทธสิงหะเห็นกุมารชีพมีหน้าตาเฉลียวฉลาดก็สอนบทสวดสิบบทก่อน ทันทีที่ท่านอาจารย์สอนจบกุมารชีพก็ท่องออกมารวดเดียวจบ ความทรงจำที่ดีเลิศอัศจรรย์ของกุมารชีพ ทำให้อาจารย์พุทธสิงหะตกตะลึงนิ่งไป
|
|
从第二天起罗什每天熟读背诵一千偈。每一首偈三十二个字,一千偈就是三万二千字。他不但记忆力惊人,理解力也强,对师父所讲的义理能透彻地理解;就是最 难理解的经文,也能明白一些。师父很喜欢他,尽可能地传授。据说,在短短的一年中,罗什念过的偈子就有三十万首,经文也有十卷。有人作过统计,他幼年熟 读、背诵的佛经,竟有四百多万字。 นับจากนั้น กุมารชีพก็ท่องอ่านบทสวดทุกวัน วันละพันบท แต่ละบทมีอักษร 32 ตัว พันบทก็เท่ากับ 32,000 ตัวอักษร ท่านไม่เพียงมีความทรงจำดีเลิศอย่างน่าตกใจ ยังมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงเหตุผลที่อาจารย์ได้อธิบายเป็นอย่างดี แม้คัมภีร์บางบทยากจะเข้าใจ ท่านก็ยังพอเข้าใจได้บ้าง อาจารย์ให้ความรักและเอ็นดูแก่กุมารชีพมาก พยายามถ่ายทอดคำสอนให้มากที่สุด กล่าวคือในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 1 ปี บทสวดที่กุมารชีพท่องได้ทั้งหมดมี 3 แสนบท คัมภีร์อีก 10 เล่ม มีผู้เคยคำนวณว่าเฉพาะพุทธธรรมที่กุมารชีพได้ศึกษาครั้งเยาว์วัย ที่มีความเข้าใจอย่างละเอียดและสามารถท่องขึ้นใจได้นั้นมีอยู่ประมาณ 4 ล้านตัวอักษร
|
|
公主母子出家的消息传开后,龟兹国的信徒们为了表示对公主母子的尊敬,源源不断地为他们送来供养。公主感到不安。她想作为出家人,不能接受过分尊敬而得到太多的东西;可要阻止人们这样做,又显然是不可能的,怎么办?ข่าว การออกบวชขององค์หญิงแม่ลูกแพร่กระจากออกไป พุทธศาสนิกชนชาวกุฉาต่างแสดงความภักดีต่อองค์หญิงแม่ลูก โดยส่งข้าวปลาอาหารไปให้อย่างไม่ขาดสาย พระนางรู้สึกไม่สบายพระทัยเพราะผู้ออกบวชต้องไม่รับสิ่งของมีค่าหรือรับการ ยกย่องเป็นพิเศษ จะห้ามปรามชาวเมืองก็คงไม่ได้ จะต้องทำอย่างไรดีเล่า
|
|
令公主想不到的是,罗什竟引用佛经上的话,把公主的担忧说了出来,公主惊喜交加。她对罗什说:“国人送来供养,是因为我是王妹,你是王甥。看来我们只有离开龟兹国,撇弃这养尊处优的生活。” สิ่งที่คาดไม่ถึงก็มาถีง กุมารชีพสามารถนำเอาความหมายของพระคัมภีร์มาใช้พูดตรงกับความรู้สึกในใจของ องค์หญิง องค์หญิงทั้งตกตะลึงและยินดี จึงตรัสกับกุมารชีพว่า “ผู้คนในเขตแคว้นที่ส่งข้าวของมาให้ เพราะแม่เป็นพระขนิษฐา ลูกเป็นพระราชนัดดา ฉะนั้นพวกเราจำต้องไปจากแคว้นกุฉา ละทิ้งชีวิตที่ตั้งอยู่บนความสมบูรณ์พูนสุข”
|
|
公主听说罽宾国(今克什米尔一带)有一位大德名叫盘头达多,为了过真正的出家生活,也为了让罗什经受风雨的锻炼,就带着罗什离开龟兹,远赴罽宾国那年,罗什九岁。องค์ หญิงได้ทราบว่าแคว้นกุภาน (ชื่อเดิมของกรุงคาบูล อัฟกานิสถาน คือแถบเมืองกัษมีระ ในปัจจุบัน) มีพระเถระผู้ทรงคุณธรรมท่านหนึ่งนามว่าพันโธเทวทัต ดังนั้นองค์หญิงผู้ทรงมีพระประสงค์จะใช้ชีวิตนักบวชอย่างแท้จริง และเพื่อให้กุมารชีพได้ฝึกรับมือกับความยากลำบาก จึงไปจากแคว้นกุฉาออกเดินทางไกลไปยังแคว้นกุภาน ในปีนั้นกุมารชีพมีอายุเพียง 9 ปี
|
|
母子一行不久就面临了穿越沙漠的艰难。浩瀚的沙漠,一望无际,唯有隐约可见的骆驼粪便和残缺不全的尸骸,表明曾经有人在这里被吞噬。和沙漠相比,人是那么渺小阿!公主默默地祈祷佛陀保佑他们母子一行顺利经过这片大沙漠。 ต่อมาไม่นาน สองแม่ลูกและผู้ติดตามก็ต้องเผชิญกับความทุรกันดารของทะเลทรายอันเวิ้ง ว้างกว้างใหญ่ ได้เห็นเพียงมูลอูฐและซากศพที่กะพร่องกะแพร่งไม่ครบส่วนอย่างเลือนราง เห็นได้ชัดว่าละแวกนี้เคยมีผู้คนถูกกลืนกิน เมื่อเทียบกับผืนทะเลทรายที่กว้างใหญ่แล้ว มนุษย์นี้ช่างเล็กเหมือนผงธุลีจริงหนอ องค์หญิงทรงอธิฐานขอพระพุทธคุณให้ช่วยคุ้มครองแม่ลูกและผู้ติดตามให้เดินทาง ผ่านทะเลทรายไปโดยสวัสดิภาพ
|
|
突然,乌云遮日,狂风卷起,黄沙铺天盖地向他们扑来。他们只得停止前进,背靠着骆驼躲避风沙。这时,气温也骤然下降,大家都冻得缩成一团,瑟瑟发抖。
ทันใดนั้น แสงอาทินย์ถูกบดบังด้วยเมฆคลุ้ม ลมพายุม้วนวนเป็นระลอก ฝุ่นทรายสีเหลืองโหมกระหน่ำพัดปกคลุมมาอย่างแรง ทำให้ต้องหยุดการเดินทาง หันหลังพิงกับตัวอูฐเพื่อหลบพายุทรายที่แรงจัด ซ้ำอุณหภูมิก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ ทุกคนหนาวจนตัวแข็งซุกขดตัวอยู่ด้วยกันเพราะความหนาวเหน็บจนสั่นสะท้าน
|

|
风沙过后,他们继续打起精神赶路。公主问罗什苦不苦,罗什说:“只要能求得佛法,再苦我也感到快乐!”公主欣慰的笑了。
หลังลมพายุผ่านพ้น จึงตั้งจิตแน่วแน่ออกเดินทางต่อไป องค์หญิงทรงถามกุมารชีพว่า ทุกข์ทรมานไหม กุมารชีพบอกว่า “ขอเพียงแสวงหาพุทธธรรมได้ จะทุกข์ยากกว่านี้ก็เป็นสุข องค์หญิงทรงแย้มสรวลอย่างปลาบปลื้มพระทัย
|
|
走出沙漠之后,由于上了新的考验。眼前的雪山崎岖陡峭,一不小心就会跌下万丈深渊,化作齑粉。一位随行者对公主说:“这里气候寒冷,四季冰封,风狂雪猛,你和公子千万要小心啊。”公主和罗什准备经受新的磨难。
เมื่อการเดินทางบนทะเลทรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็ต้องเผชิญการทดสอบครั้งใหม่เพราะเบื้องหน้าเป็นภูเขาหิมะที่มีเส้นทางสูง ชัยและขรุขระ หากขาดความระมัดระวังก็จะพลัดตกสู่ห้วงเหวลึกกลายเป็นผงธุลีทันที ผู้ติดตามคนหนึ่งกราบทูลองค์หญิงว่า “แถบนี้อากาศหนาวเย็น ตลอดปีปกคลุมด้วยหิมะ ลมพายุกระโชกแรง หิมะก็ตกหนักพระองค์และพระโอรสต้องทรงระมัดระวังเป็นพิเศษ” องค์หญิงแม่ลูกต้องเตรียมเผชิญความลำบากตรากตรำอย่างใหญ่หลวงอีกครั้ง
|
|
暴风雪来了,庞大的骆驼已经举步维艰,不能再负载公主母子了。公主和罗什走下骆驼,艰难地行走。狂风漫卷大雪,呼啸声一阵紧一阵,随行者感到非常紧张,一心求法的母子却毫无惧色,他们互相搀扶着,贴身山壁,迎着风雪前进。
ลมพายุแรงกล้าโฆมกระหน่ำมา อูฐซึ่งบรรทุกสัมภาระมากมายไม่สามารถทานรับน้ำหนักของสองแม่ลูกได้ เพราะทางขึ้นเขาสูงชันและคับแคบ ดังนัน สองแม่ลูกจึงต้องลงจากอูฐและเดินอย่างลำบากแสนเข็ญ หิมะปะปนกับพายุ พัดกระโชกคำรามมาเป็นระลอกผู้ติดตามต่างตื่นตระหนกและกังวล ส่วนสองแม่ลูกที่มีจิตใจแน่วแน่จะแสวงหาพระธรรมไม่มีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่ น้อย ช่วยกันประคับประคองแนบกายกันเดินชิดสันเขา ฟันฝ่าหิมะต่อไปเบื้องหน้า
|
|
历尽了千心万苦,终于来到了印度河前。渡过这条河,就是罽宾国了,罗什指着印度河,高兴地与母亲说话。公主慈祥地望着儿子,她觉得,经过这次长途跋涉,儿子变得更坚强了。而罗什也感到母亲的爱心给了她最大的勇气和力量。
ผ่านความลำบากยากเย็นไปแล้ว ในที่สุด เบื้องหน้าคือแม่น้ำสินธุ ผ่านแม่น้ำนี้ไปแล้วก็จะถึงแคว้นกุภาน กุมารชีพชี้ไปยังแม่น้ำพูดคุยกับพระมารดาอย่างเป็นสุข องค์หญิงมองดูพระโอรสด้วยความเมตตา นางรู้สึกว่าหลังผ่านการเดินทางอันแสนเข็ญบนเส้นทางไกลนี้ พระโอรสของนางมีความหนักแน่นเข้มแข็งกว่าเดิม ส่วนตัวของกุมารชีพเองรู้อยู่เต็มอกว่าทุกกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านพ้นมาได้ เพราะความรักอันสูงค่าจากพระมารดาที่ทำให้มีความกล้าหาญและมีกำลังใจมากเป็น พิเศษ
|
|
罽宾国的盘头达多大师是国王的堂兄弟,他舍弃一切,出家修行,对与佛教的经、律、论三藏和佛理的九部都非常精通。他的渊博学识和高尚品德,不但使国内的人们对他无比敬仰;就连国外的人,也纷纷远道而来,拜他为师。
ท่านพันโธเทวทัต เป็นลูกพี่ลูกน้องกับกษัตริย์กุภาน ท่านละทิ้งทุกอย่างทางโลกออกบวชเพื่อบำเพ็ญธรรม ไม่ว่าจะเกี่ยวกับคัมภีร์ กฎวินัยของศาสนาพุทธรวมไปถึงพระไตรปิฎกและพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เล่ม ท่านก็รู้แจ้งแตกฉาน มีความรู้ลึกซึ้งไพศาล และมีอุปนิสัยดีงามความประพฤติสูงส่ง ไม่เพียงแต่คนในแว่นแคว้นเท่านั้นที่ให้ความเคารพนบนอบ แม้คนต่างแว่นแคว้นที่ได้ยินกิตติศัพท์ต่างก็หลั่งไหลมาคารวะขอเป็นศิษย์ อย่างไม่ขาดสาย
|
|
公主母子一到罽宾国就立刻去拜见盘头达多。大师得知母子为求佛法,历尽辛苦,既感动,又惊讶,马上出来接见,向他们母子慰问,诚心诚意地欢迎他们到来。大师见罗什年纪虽小,却仪态端正,彬彬有礼,乌黑的眼睛闪着智慧的光芒,便心生欢喜,答应收罗什为弟子。
ทันทีที่สองแม่ลูกเสด็จถึงแคว้นกุภาน ก็รีบไปนมัสการพันโธเทวทัตเถระ พระเถระได้ทราบถึงความมุ่งมั่นขององค์หญิงแม่ลูกที่มุ่งใฝ่หาพระธรรม และได้ฟันฝ่าอุปสรรคมามากมาย ทั้งซาบซึ้งและอัศจรรยืใจ จึงรีบออกมาต้อนรับพร้อมโอภาปราศรัยเชื้อเชิญด้วยใจจริง พระเถระเห็นกุมารชีพแม้อายุยังน้อย แต่บุคลิกสง่างาม มีสัมมาคารวะ ดวงตาดำขำ เปล่งประกายบ่งบอกถึงอัจฉริยภาพ ในใจเกิดความชื่นชอบ และยินดีตอบรับกุมารชีพเป็นศิษย์
|
|
罗什恭恭敬敬地向盘头达多行拜师之礼。盘头达多用罗什学过的《阿毗昙经》考他,罗什的记忆力和理解力都让他暗暗称奇,他感到这位新收的弟子无疑是旷世奇才。
กุมารชีพก้มกราบทำพิธีไหว้ครูด้วยความเคารพ พระเถระทดสอบความรู้กุมารชีพด้วยอภิธรรมสูตรที่กุมารชีพเคยศึกษามา ความทรงจำและความเข้าใจของกุมารชีพทำให้พระเถระรู้สึกพิศวงเป็นอย่างมาก ศิษย์ใหม่คนนี้จะต้องเป็นเลิศในปฐพีแน่
|
|
盘头达多向罗什传授《中阿含经》。此经相传为佛租释迦牟尼入灭后最初结集的四部经藏之一。这四部经依文字长短和内容特点,分别称《长阿含经》、《中阿含 经》、《杂阿含经》、《增一阿含经》。这天盘头达多在佛殿讲完经以后,便要大家熟读精思。第二天,罗什就背诵给老师听,又把所悟解的经文讲述了一遍。老师 为他的决定聪明而高兴,又授他《长阿含经》。
พัน โธเทวทัตเถระถ่ายทอดพระสูตรมัธยมาคมให้แก่กุมารชีพ เล่าสืบต่อกันมาว่าพระธรรมบทนี้เป็นหนึ่งในสีบทของพระไตรปิฎก ซึ่งถูกรวบรวมและสังคายนาขึ้นครั้งแรกหลังจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ ปรินิพพาน พระไตรปิฎกทั้งสี่บทนี้แยกตามความสั้นยาว จุดเด่นของเนื้อหาสาระแบ่งออกเป็น 4 บท คือ ทีฆราคม มัธยมาคม สังยุกตาคม เอโกตตราคม อยู่มาวันหนึ่งหลังจากพระเถระแสดงธรรมที่พระวิหารเสร็จแล้ว ก็กำชับให้ศิษย์ทุกคนอ่านดูให้ละเอียด ตรึกตรองให้ดี พอวันรุ่งขึ้นกุมารชีพก็ท่องให้อาจารย์ฟัง และยังอธิบายถึงความเข้าใจในพระธรรมที่เพิ่งเรียนมา พระเถระเปลื้มใจในอัจฉริยภาพของกุมารชีพ พร้อมถ่ายทอดพระสูตรทีฆราคมให้อีกบทหนึ่งด้วย
|
|
罗什学习非常刻苦,他在众弟子中年龄最小,去聪明过人,常常提出问题与师兄讨论,直到彻底明白为止。盘头达多非常喜欢罗什,他认为罗什神奇俊秀,是佛教的瑰宝。罗什的名字很快传播开来,连国王也知道了。
กุมาร ชีพศึกษาอย่างมานะบากบั่น ท่านเป็นคนอายุน้อยที่สุดในจำนวนศิษย์ทั้งหมดแต่ฉลาดปราดเปรื่องกว่าคนอื่น มักจะหยิบยกปัญหามาวิเคราะห์แลกเปลี่ยนกันศิษย์พี่เป็นประจำ จนกระทั่งเข้าใจแจ่มแจ้งจึงจะยุติ พระเถระชมชอบกุมารชีพเป็นพิเศษ และถือว่าความอัศจรรย์และสติปัญญาอันดีงามของกุมารชีพ เป็นอัญมณีอันล้ำค่าของพุทธศาสนาชื่อเสียงของกุมารชีพแพร่ออกไปอย่างกว้าง ขวางรวดเร็ว แม้แต่กษัตริย์ของกุภานก็ทรงทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี
|
|
一次,国王和盘头达多又谈到罗什。正好有几位外道论师途经?宾国,在与国王的言谈中,颇有对佛教不敬之意。国王正想找人难一难这些外道论师,盘头达多就提议让弟子中辩才最好的罗什与他们辩论。盘头达多对罗什的才华成竹在胸,请国王颁令。 อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่กษัตริย์กุภานทรงสนทนากับพันโธเทวทัตเถระ ก็ได้พูดถึงกุมารชีพ พอดีช่วงนั้นมีนักบวชต่างศาสนาหลายท่านเดินทางผ่านมายังแคว้นกุภาน ระหว่างที่บรรดานักบวชสนทนาธรรมกับพระองค์อยู่นั้น ก็มีท่าทีกิริยาไม่ค่อยเคารพต่อพุทธศาสนา พระองค์กำลังเสาะหาผู้สันทัดมากำราบนักบวชเหล่านี้อยู่ พระเถระจึงเสนอให้กุมารชีพผู้มีฝีปากในการโต้คารมเปิดอภิปรายกับนำบวชเหล่า นั้น พระเถระเชื่อมั่นในอัจฉริยภาพและความสง่างามของกุมารชีพ จึงกราบบังคมทูลขอให้พระองค์ทรงมีรับสั่งนัดเปิดอภิปราย
|
|
外道论师们和罗什等几位法师都被请进了宫。国王对外道论师说:“我们有位法师要向你们请教。”几位外道论师笑到:“那好,如能辩赢我们,我们就情愿皈依 佛门。”国王笑了笑,没有回答。外道论师又问:“请问国王,想要跟我们辩论的法师是那位?”国王指了身边的鸠摩罗什道:“就是这位法师。”“原来是位乳臭 未干的孩子呀!”外道论师放肆地笑了起来。
นัก บวชฝีปากกล้าต่างศาสนาเหล่านั้น พร้อมทั้งกุมารชีพและธรรมาจารย์อีกหลายรูปได้รับนิมนต์เข้าไปในพระราชวัง พระองค์ทรงมีปฏิสันถารกับนำบวชเหล่านั้นว่า “ข้าพเจ้ามีพระสงฆ์รูปหนึ่งต้องการคำชี้แนะจากทุกท่าน”นักบวชหัวเราะและบอก ว่า “ก็ดีสิหากสามารถอภิปรายชนะพวกเรา พวกเราก็จะยอมนับถือศาสนาพุทธทั้งกายและใจ” พระองค์ทรงแย้มสรวลไม่ตรัสอะไร นักบวชทูลถามอีกว่า “ผู้ใดที่จะมาอภิปรายกับพวกเรา” พระองค์ทรงชี้มายังกุมารชีพซึ่งยืนยิ้มอยู่ข้างพระวรกาย และว่า “ก็คือสามเณรรูปนี้ เป็นเด็กทารกซึ่งยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่เอง” นักบวชทั้งหลายต่างหัวเราะเย้ยหยันอย่างกำเริบเสิบสาน
|
|
辩论会开始了,国王亲自主持。外道中一个较为年长的提了两个问题,罗什不慌不忙,语气清楚,有条有理地加以回答。聪明的罗什也提出几个问题,请对方回 答。刚才还目空一切的外道论师们见罗什讲得字字珠玑,头头是道,竟面面相觑,一时间张口结舌。罗什又指出了他们的肤浅无知。几位外道论师心悦诚服地皈依了 佛门。
การ อภิปรายเริ่มขึ้นโดยกษัตริย์กุภานทรงเป็นผู้เปิดอภิปรายด้วยพระองค์เอง ในหมู่นักบวชเหล่านี้มีท่านหนึ่งอายุค่อนข้ามาก ยกคำถามขึ้นมาถาม 2 เรื่อง กุมารชีพไม่ประหวั่นลนลานแต่อย่างไร กลับค่อยๆตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำและอธิบายอย่างแจ่มแจ้ง กุมารชีพผู้เฉลียวฉลาดถามคำถามกลับอีกหลายข้อเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามตอบบ้าง นักบวชฝีปากกล้าเหล่านั้นเมื่อฟังกุมารชีพตอบโต้ทุกอย่างด้วยเหตุผลและสติ ปัญญา ก็คลายความเย่อหยิ่งอวดดีก่อนหน้านี้ ต่างจ้องมองซึ่งกันและกันอย่างอับจนถ้อยคำ กุมารชีพชี้ถึงความเข้าใจของท่านเหล่านั้นว่ายังตื้นเขิน จนท่านเหล่านั้นต้องยอมเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ น้อมรับพุทธศาสนาด้วยความสมัครใจ
|
|
罽宾国王亲眼看到了罗什的精彩辩论,很是佩服,觉得罗什为罽宾国争了光。他不顾罗什母子的反对,给予他们最好的供养,并派五名僧人和五名小沙弥为他们服务。耆婆推辞不了只得暂时接受下来。在罽宾国住了两年,罗什的学业有了很大的进步,他的名字在邻近的各国传扬开去。
กษัตริย์กุภาน ทอดพระเนตรเห็นการอภิปรายที่เปี่ยมสีสันของกุมารชีพแล้วทรงให้ความเคารพ นับถืออย่างมาก พระองค์ทรงปลาบปลื้มที่กุมารชีพนำชื่อเสียงมาสู่แว่นแคว้น จึงไม่คำนึว่าองค์หญิงแม่ลูกจะปฏิเสธหรือไม่ ทรงจัดให้มีการอุปถัมภ์รับรองอย่างดีเลิศพร้อมรับสั่งให้พระสงฆ์ 5 รูป และสามเณรอีก 5 รูปมาคอยปรนนิบัติ องค์หญิงไม่สามารถปฏิเสธได้จึงต้องยอบรับข้อเสนอนี้ สองแม่ลูกได้พักอาศัยอยู่เมืองกุภานเป็นเวลา 2 ปี และการศึกษาของกุมารชีพก็รุดหน้าเป็นอย่างมาก ชื่อเสียงของกุมารชีพเลื่องลือออกไปยังแว่นแคว้นใกล้เคียง
|
|
耆婆感到盛名厚禄对罗什没有什么好处,拒绝了不少邻国对罗什的尊贵聘请。罗什对母亲所做的一切,充满信赖与敬意。一天母亲对罗什说:“你在此已经学有所 成,这里供养太好,再住下去已经不合适,不如返回龟兹国吧。”盘头达多也对罗什说:“我所有的知识都传给你了,你要深造,只得另请高人。”
องค์ หญิงฉีผอรู้ลึกว่าการมีชื่อเสียงโด่งดังได้รับการเอื้อเฟื้ออันบริบูรณ์เช่น นี้ ไม่เป็นผลดีต่อกุมารชีพแต่อย่างใด ทรงปฏิเสธการเชื้อเชิญอันทรงเกียรติของแว่นแคว้นข้างเคียงกุมารชีพเข้าใจถึง เหตุผลที่พระมารดาต้องทำเช่นนี้ จึงมีความเชื่อมั่นและเคารพพระมารดามากขึ้น วันหนึ่งองค์หญิงตรัสกับกุมารชีพว่า “เจ้าอยู่ที่นี่ก็ได้วิชาความรู้ระดับหนึ่งแล้ว ที่นี่ให้การปรนนิบัติดีเกินกว่าที่พวกเราควรได้รับ เรากลับแคว้นกุฉากันเถอะ” พันโธเทวทัตเถระ ก็บอกกับกุมารชีพว่า “วิชาความรู้ของอาตมาทั้งหมดก็ถ่ายทอดให้สิ้นแล้ว หากเจ้าจะศึกษาขั้นสูงต่อไปอีก จะต้องหาผู้มีปัญญาความสามารถสูงส่งคนใหม่”
|

|
十二岁的鸠摩罗什和母亲踏上了回国之路。他们非常想念祖国。可是回国后,去发现国内竟无人超过鸠摩罗什。人人纷纷向罗什求教,而罗什自己竟不知想谁学习。于是他们打算再次走出国门,去寻找道行高深的大师。上次到?宾国是从龟兹向西而行,这次是向东而行。 กุมารชีพมีอายุเพียง 12 ปี ได้เดินทางกลับแคว้นกุฉาพร้อมพระมารดา สองแม่ลูกคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนมาก แต่เมื่อกลับมาถึงแคว้นกุฉา กลับพบว่าคนในเมื่อกุฉาไม่มีผู้ใดมีวิชาเหนือกว่ากุมารชีพเลย มีผู้คนมาขอศึกษาอยู่เป็นประจำ กุมารชีพเองไม่ทราบจะศึกษาต่อกับใคร เมื่อสองแม่ลูกตรองดูแล้วก็เดินทางออกจากกุฉาอีกครั้ง แสวงหาอาจารย์ที่มีความรู้ลึกล้ำเพื่อกาศึกษาต่อไป ครั้งที่แล้วไปแคว้นกุภาน ซึ่งเป็นการเดินทางไปทางทิศตะวันตก ในครั้งนี้จึงเลือกเดินทางไปทิศตะวันออก
|
|
一天,罗什母子在路上遇见一位相貌非凡的高僧。这位高僧郑重地对耆婆说:“小沙弥非等闲之辈,你要小心守护他。要是到了三十五岁他仍没破戒,那他一定会 向阿育王时的优波掬多法师一样度人无量,万事齐名。”他停了停又说:“假使他的戒行不全虽然成就较底,但仍是一位兴隆佛法、多才多艺的佛教的中流砥石。” 母子俩把高僧的话记在心里。วัน หนึ่งขณะอยู่ระหว่างทาง สองแม่ลูกได้พบกับธรรมาจารย์ผู้มีสง่าราศีพิเศษรูปหนึ่ง ท่านได้พูดเน้นกับองค์หญิงว่า “สารเณรน้อยรูปนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ท่านต้องคอยระวังปกป้องเขาให้ดี หากอายุได้ 35 ปีแล้วยังไม่ละเมิดศีล เขาจะเป็นเช่นท่านอุปคุตเถระ ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ที่โปรดมวลสรรพสัตว์มีชื่อเสียงเลื่องลือชั่วนิรันดร์” ท่านหยุดสักครู่จึงพูดต่อว่า “แม้หากการถือศีลของเขาจะไม่สมบูรณ์ แม้ความสำเร็จจะค่อนข้างต่ำแต่ก็ยังคงเป็นผู้ที่ทำให้พุทธธรรมเฟื่องฟู เขามีสติปัญญาความสามารถทั้งศาสตร์ศิลป์เปรียบเสมือนหินลับมีดของศาสนาพุทธ ในช่วงกึ่งพุทธกาล” สองแม่ลูกได้จดจำคำพูดของพระธรรมมาจารย์ไว้ในใจ
|
|
罗什母子到达月氏(今甘肃中部和青海东境接壤的一带)后,云游了一段时间,又改变方向,翻过绵亘不段的高山,穿越茫茫无际的沙漠,跋涉深浅莫测的沼泽,到达沙勒国(今新疆西部地区),在一座寺院里挂单。 เมื่อองค์หญิงแม่ลูกมาถึงแคว้นปาเถียน (แถบกันซู่ และชิงไห่ในปัจจุบัน) ได้ท่องธุดงค์ไปทั่วทุกแห่งหนอยู่ระยะหนึ่ง ก็เปลี่ยนทิศทางใหม่โดยผ่านขุนเขาสูงยาว ทะเลทรายอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ตลอดเส้นทางต้องเดินทางอย่างลำบาก ข้ามน้ำข้ามลำธารที่มีขนาดและความลึกต่างกัน จนมาถึงแคว้นสาละ (แถบซินเจียงตะวันตกเฉียงใต้ปัจจุบัน) จึงได้เข้าพักค้างแรมที่วัดแห่งหนึ่ง
|
|
鸠摩罗什虽然比别的孩子聪明懂事,但毕竟年纪还小,有时候也难免淘气好玩。有一天,他看见院子里有一只大佛钵,觉得好玩,便跑过去,兴致勃勃地把它举起来顶在头上。 แม้กุมารชีพจะฉลาดกว่าเด็กทั่วไป แต่ในความเป็นเด็กที่บางครั้งก็อยากเล่นซุกซน วันหนึ่งท่านเห็นบริเวณลานวัดมีพาตรพระใหญ่ลูกหนึ่งรู้ลึกอยากเล่น จึงวิ่งไปยกบาตรพระนั้นขึ้นมาเทินเล่นบนศีรษะตนเองอย่างสนุกสนาน
|
|
罗什突然想起:“这么重的铁钵我怎么就轻而易举地拿起来顶在头上也不觉得重呢?”此念一生,鸠摩罗什顿时觉得铁钵重得不得了,压得头顶都快破裂。他站立不稳了,身体向前倾斜,铁钵‘哐当’一声掉在低上。 ขณะนั้น กุมารชีพฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า “บาตรเหล็กหนักเช่นนี้ ทำไมจึงยกขึ้นมาเทินบนศีรษะได้ง่ายดายโดยไม่รู้ศึกหนักเลย” พลันที่มีความคิดเช่นนั้น กุมารชีพก็รู้สึกว่าบาตรเหล็กช่างหนังอึ้ง กดทับจนศีรษะแทบแตกระเบิด ท่านยืนโคลงเคลงทรงตัวไม่มั่น ร่างกายเอนไปข้างหน้า ทำให้บาตรเหล็กตกกระแทกพื้นเสียงดัง โครม
|
|
罗什想把铁钵放回原处,却怎么也搬不动。他眨巴着眼睛,忽然心有所悟:“哦!一定是我对佛钵有大小,轻重的分别念头,所以佛钵就有轻重了!”从此他深深体会到了万物与人的意念有着密切关系。กุมาร ชีพคิดจะยกบาตรเหล็กนั้นกลับมาเทินศีรษะอีก แต่จะยกอย่างไรก็ยกไม่ขึ้น ได้แต่กระพริบตากลมโต จิตใต้สำนึกรู้สึกขึ้นมาทันทีว่า “โอ เป็นเพราะเรามีความคิดเกี่ยวกับความแตกต่างของขนาดใหญ่เล็กและหนักเบาของ บาตรเหล็ก บาตรพระจึงมีน้ำหนักที่เป็นจริงตามวัตถุขึ้นมา นับแต่นั้นกุมารชีพจึงเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าสรรพสิ่งในโลกมีความเกี่ยวโยง ลึกซึ้งกับความนึกคิดของมนุษย์
|
|
罗什母子在寺院里住了十多天后,告别寺僧,在沙勒国各地求佛问法。其时正值隆冬,沙勒国冰封雪盖,母子俩不畏严寒饥饿时就托钵乞食;没有寺院挂单,就在野外自搭帐篷过夜。就这样,他们在沙勒国结实了不少有名的高僧。 องค์หญิงแม่ลูกพำนักอยู่ในวัดสิบกว่าวันก็กราบลาพระในวัด และจาริกไปตามวัดวาอารามหลายแห่งในแคว้นสาละเพื่อศึกษาค้นคว้าพระธรรม เวลานั้นพอดีเป็นฤดูเหมันต์ที่หนาวจัด ทั่วแคว้นสาละปกคลุมไปด้วยหิมะ สองแม่ลูกต่างไม่ย่นย่อต่อความหนาวเหน็บ ยามหิวกระหายก็ถือบาตรออกภิกขาจาร ไม่ได้พำนักที่วัดวาอารามกางกระโจมพักแรมอยู่นอกเมือง ใช้ชีวิตเยี่ยงนี้อยู่ระยะหนึ่ง ทำให้มีโอกาสได้รู้จักพระธรรมาจารย์หลายๆท่านในแคว้นสาละ
|
|
一次罗什在沙勒国王城附近的一座名寺挂单。母子俩已多日奔波,十分疲惫。这一天,沙勒国的喜见法师见有个挂单的小沙弥在读经,变与他交谈起来,方知这位云游的沙弥正是鸠摩罗什。喜见法师见罗什议论精辟,阐述透彻,十分赏识,便进宫面奏国王,建议国王请罗什讲经说法。 องค์หญิงได้พักค้างคืนในวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ใกล้เมืองหลวงของแคว้นสาละ สองแม่ลูกเหน็ดเหนื่อยจาการลำบากตรากตรำมาหลายวัน วันหนึ่งปิยะทัสสีเถระของแคว้นสาละ ได้เห็นสามเณรที่มาพำนักที่วัดนี้กำลังอ่านหนังสือธรรมะ ก็เข้าไปพูดคุยด้วยจึงทราบว่าสามเณรที่อยู่เบื้องหน้า คือกุมารชีพที่จาริกศึกษาหลักธรรม จากการสนทนาธรรมเห็นถึงความรอบรู้ ความสามารถในการวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างละเอียดแจ่มแจ้งรู้สึกชื่นชอบเป็น อย่างยิ่ง จึงเข้าวังนำความไปกราบบังคมทูลกษัตริย์สาละ เสนอให้นิมนต์กุมารชีพมาแสดงธรรม กษัตริย์สาละทรงเห็นด้วยกับข้อเสนอของปิยะทัสสีเถระ
|
|
国王同意了喜见的提议。再说国王近来正为龟兹国的邦交陷入僵局而发愁。见罗什是龟兹国王的外甥,请罗什讲经说法,不但对本国沙门是一个鞭策,而且将来有 利于两国邦交的正常化。国王发出告示,国内信徒从四面八方涌来。罗什开始讲解《转法轮经》,他讲得实在太好了。讲解完毕,欢呼声响彻整个大厅,轰动了沙勒 国。กล่าว ถึงกษัตริย์สาละ ทรงกลัดกลุ้มพระทัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นสาละกับกุฉา ซึ่งตกอยู่ในสภาพเย็นชาต่อกัน ทรงคิดได้ว่ากุมารชีพเป็นพระราชนัดดาของแคว้นกุฉา หากนิมนต์กุมารชีพแสดงธรรม ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความรู้พระธรรมแก่ผู้คนในแคว้นสาละ ยังเป็นประโยชน์ในการประชับสัมพันธ์ระหว่างแคว้นให้กลับคืนสู่สภาพเดิม กษัตริย์สาละจึงทรงประกาศให้พุทธศานิกชนทุกสารทิศมาประชุมฟังธรรมโดยพร้อม เพรียง กุมารชีพเริ่มเทศนา “ธัมมจักปัปปวัตตนสูตร” เมื่อเทศน์จบ เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญก็ดังกึกก้องทั่วห้อง ทำให้ชื่อเสียงของกุมารชีพเลื่องลือไปทั่วแคว้าสาละ
|
|
龟兹国王白纯得知外甥在沙勒国受到特别尊重,前嫌尽释,派遣使臣携带贵重礼物前往沙勒国。沙勒国王亲自出宫相迎。两国达成协议,恢复了邦交。童年时代的罗什就为祖国立了功。กษัตริย์ ไปฉุน แห่งแคว้นกุฉา ทรงสดับเรื่องที่กุมารชีพซึ่งเป็นพระราชนัดดาได้รับการต้อนรับอย่างสูง เกียรติจากกษัตริย์แห่งแคว้นสาละ ความหมางใจในอดีตก็ยุติลงอย่างสิ้นเชิงทรงมีรับสั่งให้ส่งราชทูตนำบรรณาการ อันมีค่าไปถวาย กษัตริย์แห่งแคว้นสาละเสด็จออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง กุมารชีพและพระมารดาซึ่งกำลังสนทนาธรรมกับข้าหลวงใหญ่อยู่ในวังก็ร่วมออกมา ต้อนรับ ทั้งสองแคว้นได้ฟื้นฟูสัมพันธ์ไมตรีขึ้นใหม่ กุมารชีพสามารถสร้างคุณประโยชน์แก่มาตุภูมิทั้งๆที่ยังเยาว์วัย
|
|
罗什在沙勒国举行法会以后,受到王子的赏识,常常被请进王子的宫中。当时有位佛学大师佛陀耶舍正受王子的供养,他学识渊博,对学问不偏不执于一端,为人坦率;罗什也是性情坦白的人,两人便成了知交。
หลังจากที่กุมารชีพเปิดการแสดงธรรมที่แคว้นสาละ ได้รับความชื่นชอบจากพระราชโอรสของกษัตริย์แคว้นสาละและนิมนต์เข้าวังบ่อย ครั้ง เวลานั้นพระเถระท่านหนึ่งชื่อ พุทธยศะ ซึ่งได้รับการอุปถัมภ์จากพระราชโอรส เป็นผู้ทีมีความรู้ลึกซึ้งเปิดกว้าง ไม่ยึดติดในความรู้และทิฏฐิของตน เป็นคนเปิดเผย ซึ่งกุมารชีพก็มีนิสัยเปิดเผยจริงใจเช่นเดียวกัน ทั้งสองจึงครบหาเป็นเพื่อนที่รู้ใจกัน
|
|
鸠摩罗什受佛陀耶舍的影响,对外道典籍也发生了浓厚的兴趣,他在研读佛经之余,攻读了婆罗门教的经典《吠陀》和有关“五名”(声明、工巧明、医方明、因明、内明)的著作甚至阴阳星算的书籍。他的见解是:他山之石。可以攻玉;知己知彼,才能更显真理的光明。 กุมารชีพได้รับอิทธิพลจากพุทธยศะเถระ จึงสนใจตำรับตำราของศาสนาอื่น นอกเหนือจากการค้นคว้าด้านพุทธธรรม กุมารชีพศึกษาคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์ และคัมภีร์ปัจวิทยา ศัพทวิทยา ศิลปกรรมสถานวิทยา จิกิตสาวิทยา เหตุวิทยา อัธยาตมวิทยา แม้กระทั่งตำราเกี่ยวกับการคำนวณดาราศาสตร์ ความเป็นของกุมารชีพคือ “การได้รับคำชี้แนะจากผู้อื่น เสมือนได้รับการช่วยเหลือที่สูงค่า รู้เรารู้เขา จึงจะแสดงออกได้ชัดเจนถึงความสว่างไสวของสัจธรรม”
|
|
他在大量阅读这些经典的过程中,虚心请教精通这些经典的学者。他在?宾国时就初步掌握了天竺的语言文字,现在,他对其更是运用自如了。 ระหว่างที่กุมารชีพกำลังอ่านตำราอย่างขะมักเขม้น ท่านมักจะขอคำชี้แนะจากผู้อาวุโสที่เชี่ยวชาญตำราเหล่านี้อย่างอ่อนน้อมถ่อม ตน สมัยที่ท่านอยู่ที่แคว้นกุภานก็ได้ศึกษาภาษาภารตะเป็นพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว เวลานี้กุมารชีพสามารถเข้าใจและใช้ภาษาภารตะได้อย่างคล่องแคล้ว
|
|
沙勒国是一个在学术文化和宗教信仰上都能够兼收并蓄的国家,是南北、东西的交通枢纽,可南入天竺,北达龟兹,西面是大月氏,往东可经莎车到达流行大乘教的于阗国。 แคว้นสาละ เป็นเหล่งรวมวัฒนธรรมทางวิชาการ ความเชื่อทางศาสนา และเป็นเมืองสำคัญของการคมนาคมทั้งทางทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก คือแคว้นกุษาณทางทิศตะวันออก เมื่อผ่านแคว้นยารกานด์ ก็จะถึงแคว้นกุสตนะหรือโขตาน ที่นิกายมหายานกำลังแพร่หลายอยู่
|

|
沙勒国信仰佛教的国人非常多,国王和王子都皈依三宝。不论是南部?宾和北部龟兹的小乘佛教,还是于?国的大乘佛教,都能被接受。于是在沙勒国形成了各佛 教派别相互并存的局面。国王曾颁诏举行千僧会,来自全国和邻近各国的僧人云集王城大寺,在国王的主持下,谈经论法,展开辩论,非常隆重而热烈。ประชาชน ในแคว้นสาละส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แม้กระทั่งกษัตริย์สาละและพระราชโอรสก็ล้วนบูชาพระรัตนตรัย แม้ว่าแคว้านกุภานทางใต้ และแคว้นกุฉาทางเหนือจะนับถือหินยาน ส่วนแคว้นกุสตนะนับถือนิกายมหายาน แคว้นสาละก็ไม่ได้แบ่งแยกนิกาย ยอมรับได้ทั้งสิ้น ดังนั้นภายในแคว้นสาละจึงมีต่างนิกายดำรงอยู่คู่กันมา กษัตริย์สาละทรงมีรับสั่งให้จัดการชุมนุมคณะสงฆ์ขึ้น มุนีพระสงฆ์ทรงศีลจากทั่วสารทิศทั้งประเทศมาร่วมชุมนุมกันที่วัดใหญ่แห่ง หนึ่งในเมืองหลวง ภายใต้อุปถัมภ์ของกษัตริย์สาละทำให้ทุกฝ่ายสามารถแลกเปลี่ยนสนทนาธรรมกัน ด้วยบรรยากาศคึกคัก
|
|
在沙勒国这个思想文化都十分宽松的国度里,罗什具备了海纳百川的胸怀和气魄。不久罗什又遇到莎车王子须利耶跋陀、参军王子须利耶苏摩兄弟俩。二位都是不 为名位所动的佛教界高人,转习大乘佛教,尤其是弟弟苏摩,更是哥哥和大乘学者之师。罗什怀着强烈的求知欲,拜苏摩为师,学习大乘。 แคว้นสาละ เป็นแคว้นที่เปิดกว้างทั้งใดด้านความคิดและวัฒนธรรม กุมารชีพเป็นผู้ที่มีจิตใจกว้างขวางเพียบพร้อมทุกอย่าง ดั่งทะเลเป็นศูนย์รวมของร้อยสายธาร ไม่นานกุมารชีพก็ได้พบกับเจ้าชายแคว้นยารกานด์นามว่า สูรยภัทระ กับเจ้าชายแห่งชานจวินนามว่า สูรยโสมะ ทั้งสองเป็นพี่น้องซึ่งมีความรู้ทางพุทธศาสนา ไม่หลงใหลทางโลก มุ่งบำเพ็ญนิกายมหายานโดยเฉพาะเจ้าชาโสมะผู้น้อง เป็นทั้งอาจารย์ของพระเชษฐาและผู้ศึกษานิกายมหายาน ด้วยกุมารชีพมีจิตใจตั้งมั่นในการศึกษาอย่างแรงกล้า จึงคารวะเจ้าชายโสมะเป็นอาจารย์เพื่อศึกษานิกายมหายาน
|
|
苏摩告诉罗什:“我们修习大乘佛法,不仅是为了自己消除烦恼,超脱生死,更是为了普救天下众生。你要记住。”罗什把老师的话牢牢记在心中。可是对于大乘佛学“一切皆空”的理论,罗什一时还不能理解。 เจ้าชายโสมะรับสั่งกับกุมารชีพว่า “การบำเพ็ญมหายานธรรมไม่เพียงเป็นการให้ตัวเองขจัดทุกข์ หลุดพ้นการเกิด การตาย ยังเป็นการโปรดสรรพสัตว์ในโลกด้วย จงจำให้ดี” กุมารชีพจดจำคำพูดของอาจารย์ไว้อย่างดี แต่ความเชื่อของมหายานที่ว่า”สรรพสิ่งคือความว่างเปล่า” นั้น กุมารชีพยังไม่สามารถเข้าใจถึงความหมายนี้ได้อย่างถ่องแท้
|
|
苏摩告诉他:“你是个绝顶聪明的孩子,只是一直无缘接触大乘佛教。大乘经典所说的一切皆空,绝非虚妄。” เจ้าชายโสมะ ทรงตรัสกาบกุมารชีพว่า “เจ้าเป็นเด็กที่มีไหวพริบเฉลียวฉลาด เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับมหายาน คัมภีร์ของนิกายมหายานกล่าวว่า สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า ย่อมไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่แท้”
|
|
鸠摩罗什一头钻进大乘经典之中,把大小乘经典拿来进行深入研究,反复对照,相互比较,才彻底信服苏摩所说的“空”是非常有道理的。他恍然大悟:“我以前学小乘犹如一个不识黄金的人,把似金的石头当作宝贝一样啊。” กุมารชีพมุ่งมั่นค้นคว้าเกี่ยวกับมหายาน ศึกษาเจาะลึกทั้งตำรามหายานและหินยานกลับไปกลับมาหลายครั้ง จนในที่สุดก็เขาใจอย่างทะลุปรุโปร่ง เชื่อถือเลื่อมใสตามที่เจ้าชายโสมะได้ตรัสไว้ คำว่า “ว่างเปล่า” มีเหตุผลลึกล้ำจริงๆ รู้สึกตื่นฟื้นจากความงมงายทันที “แต่ก่อน อาตมาศึกษาหินยานเหมือนกาบคนที่ไม่รู้จักทองคำ ได้หินที่เหมือนทองคำกลับคิดว่าเป็นของมีค่า”
|
|
苏摩待罗什对大乘理论有了初步认识之后,便向他传授《法华经》。此经是诸法之王,是释尊教法中的最高法门。苏摩与罗什从这部经的经义谈到对佛法的坚定信仰,谈到对佛法的大力宏扬,要求罗什担当起宏扬佛法的大任。罗什坚定地说:“我定以此为毕生使命。” เจ้าชายโสมะให้เวลากุมารชีพ ศึกษาหลักทฤษฎีพื้นฐานของมหายานได้แจ่มแจ้งดีแล้วก็ถ่ายทอดสัทธรรมปุณฑรี กสูตร ซึ่งเป็นยอดแห่งธรรมะ ถือเป็นธรรมชั้นสูงสุดที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศนา เจ้าชายโสมะกับกุมารชีพสนทนาแลกเปลี่ยนความหมายของธรรม ตลอดถึงความเชื่อมั่นศรัทธาต่อพุทธศาสนา รวมทั้งการเผยแผ่ธรรมออกไปให้กว้างไกล เจ้าชายโสมะวอนให้กุมารชีพรับภาระเผยแพร่ธรรมแห่งพุทธศาสนานี้ กุมารชีพตอบรับอย่างหนักแน่นว่า “ศิษย์จะถือเป็นปณิธานอันยิ่งใหญ่ชั่วชีวิต”
|
|
苏摩热情地握着罗什的手说:“你会成功的!”苏摩真不愧是一个目光远大的人,他使罗什由小乘转入大乘,帮助罗什在学业上翻开了崭新的一页;他为罗什指明了一条学以致用的道路,树立了毕生为之奋斗的目标。从此,罗什更加深入探讨大乘佛教理论。 เจ้าชายโสมะกุมมือกุมารชีพอย่างลิงโลดใจว่า “เจ้าต้องประสบความสำเร็จแน่” เจ้าชายโสมะทรงเป็นผู้มีสายพระเนตรกว้างไกลไม่เพียงทำให้กุมารชีพที่เสื่อม ใสนิกายหินยานกลับมาศรัทธานิกายมหายานแล้ว ยังช่วยพลิกโฉมหน้าใหม่ด้านการศึกษาให้กับกุมารชีพด้วย นอกจากนี้ เจ้าชายยังทรงชี้แนะหนทางให้กุมารชีพว่า เมื่อได้เรียนรู้แล้วให้นำไปใช้ โดยยึดเป็นเป้าหมายของชีวิต นับแต่นั้นมากุมารชีพก็ยิ่งศึกษาหลักทฤษฎีต่างๆ ของนิกายมหายานมากขึ้นไปอีก
|
|
罗什日夜埋头研究大乘经典,终于通达了大乘空宗奥义。对于古印度龙树的《中论》、《十二门论》、古印度提婆的《百论》,他反复思考,彻底了解经文的玄妙 之处,后来又将它们译成汉文。到了隋唐间,《中论》、《百论》、《十二门》成为论宗的主要典籍,鸠摩罗什也被尊为三论总的祖师。 กุมารชีพพากเพียรศึกษาตำรามหายานทั้งวันทั้งคืนจนมีความช่ำชอง รู้ซึ้งได้โดยตลอดถึงความหมายลึกของคำว่า “ว่างเปล่า”ในนิกายมหายาน หลักธรรมมาธยมิกศาสตร์และทวาทศนิกายศาสตร์ของท่านนาคารชุน ซึ่งเป็นชาวชมพูทวีปแต่ครั้งโบราณ หลักธรรมศตศาสตร์ของท่านอารยเทพ กุมารชีพพิเคราะห์กลับไปมาหลายรอบ และเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งถึงความลึกซึ้งมหัศจรรย์ของคัมภีร์แต่ละฉบับ ภายหลังกุมารชีพได้แปลคัมภีร์เหล่านี้เป็นภาษาจีนในสมัย สุยถัง ชื่อว่า จงลุ่น ไป่ลุ่น และซือเอ้อเหมินลุ้น ตำราทั้ง 3 เล่านี้ถือเป็นตำราสำคัญของนิกายมาธยมิกะ กุมารชีพจึงได้รับยกย่องให้เป็นปฐมจารย์ของนิกายมารยมิกะด้วย
|
|
鸠摩罗什在沙勒国游学一年,收获很大。耆婆感到罗什已经学有所成,应尽快地让他将大乘佛法传播到龟兹国去。不久他们母子告别沙勒国王和诸位师友,转道温宿,回龟兹国去。他们在温宿受到热烈欢迎,人们纷纷前来请罗什讲经说法。 กุมารชีพศึกษาวิชาอยู่ที่แคว้นสาละเป็นเวลาหนึ่งปีได้ความรู้มากมาย องค์หญิงฉีผอรู้สึกว่าความรู้ของกุมารชีพถึงพร้อมแล้ว จึงปรารถนาให้กุมารชีพเผยแผ่นิกายมหายานไปยังแคว้นกุฉโดยเร็ว ไม่นานองค์หญิงแม่ลูกจึงอำลากษัตริย์สาละ อาจารย์และเพื่อนฝูงบกลับสู่แคว้นกุฉา เมื่อผ่านเมืองอุนซู่สองแม่ลูกได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริกและผู้คนต่าง นิมนต์กุมารชีพไปแสดงธรรมอย่างต่อเนื่อง
|
|
温宿有个被称为“怪论师”的人,他熟读经书,颇有辩才,与他辩论的人都败在他的手下,因此他目空一切,以为自己天下第一,常常因为没有对手而气闷。这一天,“怪论师”听说罗什到了温宿国,竟迫不及待地敲击王鼓,向罗什挑战,并以头颅作赌注。 ที่เมืองอุนซู่ มีชายผู้หนึ่งมีฉายาว่า นักวิพากษ์พิสดาร เขาท่องอ่านตำรามากมายจนพอมีฝีปากในการโต้คารม ผู้ที่โต้คารมกาบเขามักพ่ายแพ้จึงไม่มีผู้ใดอยู่ในสายตาเขาเลย เขาคิดว่าตนเองเป็นที่หนึ่งในโลก มันอัดอั้นตันใจเสมอที่ไร้คู่ต่อสู้ วันหนึ่งนักวิพากษ์พิสดารได้ทราบข่าวการกลับมาเมืองอุนซู่ของกุมารชีพ รู้สึกร้อนรนจนทนไม่ไหว จึงไปย่ำตีกลองหน้าวัง ท้าสู้กับกุมารชีพพร้อมเอาศีรษะตนเองเป็นเดิมพัน
|
|
按当时的规定,辩论的一方是有可能掉脑袋的,但罗什和他的母亲镇静地接受了挑战。“怪论师”与罗什面对面坐好。“怪论师”让罗什先发问。罗什也不推辞, 严肃地说到:“一切宇宙万物皆是因缘和合所生,空无自性;一切众生也没有一个实在的自我存在。如此,则如何求得解脱?解脱者又是谁呢?”“怪论师”茫然不 知所答,更无从辩论了,他惭愧地低下头,承认失败。 ตามข้อกำหนดให้เวลานั้น เมื่อเสร็จสิ้นการโต้คารม ฝ่ายใดที่พ่ายแพ้ศีรษะต้องหลุดจากบ่า กุมารชีพและมารดายอมรับการท้าทายอย่างมีสติและสงบนิ่ง นักวิพากษ์พิสดารนั้นประจันหน้ากับกุมารชีพ เขาเอ่ยปากให้กุมารชีพถามก่อน กุมารชีพไม่ปฏิเสธและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “สรรพสิ่งในจักรวาลก่อเกิดเพราะสันนิวาส เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันเพราะสรรพชีวิตปราศจากแก่นสารในตนเอง จึงไม่มีภาวะแท้จริงในตน เช่นนี้จะมีการหลุดพ้นได้ไฉน ใครเล่าเป็นผุ้หลุดพ้น” นักวิพากษ์พิสดารมืดมนไปแปดด้านปราศจากข้อโต้แย้งและก้มศีรษะยอมรับความพ่าย แพ้อย่างอับอาย
|
|
“怪论师”也不食言,拔出腰刀就要自刎,却被罗什一把拉住。罗什耐心地启发他:“我之所以同你辩论,并非是为了你的什么誓言;只是为了让你了解佛理的博大精深。你的那些理论与佛理相比,犹如石头与金子......” นัดวิพากษ์พิสดารรักษาคำมั่นสัญญา เขาชักดาบจากเอวหมายจะเชือดคอตนเอง แต่ถูกกุมารชีพรั้งมือไว้และใช้ความอดทนชี้แจงว่า “อาตมาเพียงต้องการอภิปรายกับท่าน ไม่ใช่เพราะคำท้าทายสาบานแต่อย่างใด เพียงต้องการให้ท่านเข้าถึงความลึกล้ำไพศาลของพุทธธรรม ทฤษฎีของท่านหากนำมาเปรียบกับพุทธธรรมก็เหมือนก้อนหินกับทองคำ
|
|
“怪论师”心里充满感激和敬佩,他翻身下拜,再三请罗什收他做徒弟,并说:“师傅若不答应,我就死在你的脚下。”罗什只得答应下来,罗什以教训的口吻告诫他学问宽广无边,不能坐井观天,自以为是。 นักวิพากษ์พิสดารรู้สึกตื้นตันและนับถือ จึงก้มกราบวิงวอนครั้งแล้วครั้งเล่า ให้กุมารชีพรับตนเป็นศิษย์ พร้อมกล่าวว่า “หากอาจารย์ไม่ตอบรับก็จะขอตายต่อหน้าแทบเท้าท่าน” กุมารชีพจึงจำต้องตอบรับพร้อมกล่าวตักเตือนให้มีสติว่า “วิชาความรู้นั้นเป็นสิ่งกว้างไกลไร้ขอบเขต ไม่ใช่นั่งอยู่ในบ่อมองท้องฟ้าแล้วคิดว่าตัวเองนั้นวิเศษสุด”
|
|
围观的人见刚才还那么不可一世的人一下子竟像个求救的小羔羊,都深深地感动了,人民将此事广为传扬,邻近几个国家对“怪论师”心怀不满的人也感到罗什为他们争了口气,罗什受到格外的尊敬,皈依佛门的人也多了起来。龟兹国王白纯亲自到温宿迎接罗什母子。 ผู้คนที่ล้อมดูอยู่นั้น ได้เห็นผู้ที่ตลอดชีวิตไม่เคยยอมแพ้ใครง่ายๆ กลับอ้อนวอนเหมือนลูกแกะร้องขอชีวิต ทำให้ผู้คนที่เห็นตื้นตันใจมาก ข่าวนี้ได้แพร่ออกไปถึงแคว้นข้างเคียงผู้ที่ไม่ชอบพฤติกรรมของนักวิพากษ์ พิสดารอยู่แล้ว รู้สึกสะใจที่กุมารชีพสามารถสยบนักวิพากษ์พิสดารผู้นั้นได้ กุมารชีพจึงยิ่งได้รับความเคารพนับถือเป็นพิเศษ ทำให้มีผู้ศรัทธานับถือพุทธศาสนามากขึ้น กษัตริย์ไป่ฉุนของแคว้นกุฉาเสด็จมาเมืองอุนซู่เพื่อต้อนรับองค์หญิงสองแม่ ลูกกลับแคว้นกุฉาด้วยตนเอง
|

ศาลาเจดีย์บรรจุอัฐิท่านกุมารชีพ
|
罗什母子回国后,国王经常举办法会,听者如潮水般地涌进国王新建的伽蓝寺。罗什或演讲、或回答听众的问题,对学者提出的难题做解答,有时也展开辩论。他的演讲与风采,使与会者心服口服,声望一天比一天高。
เมื่อองค์หญิงสองแม่ลูกกลับถึงบ้านเกิดเมืองนอนแล้ว กษัตริย์ไป่ฉุนโปรดให้เปิดการแสดงธรรมบ่อยครั้ง ผู้แสวงธรรมเดินทางหลั่งไหลดุจกระแสน้ำมายังวัดสังฆารามที่พระองค์เพิ่งทรง สร้างเสร็จ กุมารชีพแสดงปาฐกถา ตอบคำถามของผู้เข้าฟังธรรม และตอบข้อสงสัยแก่นักปราชญ์ต่างๆ บางครั้งก็จัดอภิปรายบ้าง ภาพลักษณ์ยามแสดงธรรมและสง่าราศีของกุมารชีพทำให้คนที่ร่วมประชุมต่างยอม ศิโรราบทั้งกายใจ ชื่อเสียงของกุมารชีพนับวันก็ยิ่งทวีขึ้น
|
|
白纯国王有个女儿削发为尼,名叫阿*耶末帝。罗什担心龟兹国一直流行小乘佛教,信徒对大乘佛教一时无法接受,便先说法给这位表妹听。表妹听得着了迷,请 师父为罗什举行法会,专讲大乘佛法。罗什为大众讲解万法皆空无我,五阴十八界都是假名而非实有的道理,信徒们顿觉耳目一新。พระ ธิดาของกษัตริย์ไป่ฉุน ทรงพระนามว่าอักษยมติ ปลงพระเกศาบวชเป็นชี กุมารชีพเป็นห่วงว่าพุทธศาสนิกชนจะไม่ยอมรับนิกายมหายานในเวลาอันสั้น เพราะแคว้นกุฉาแต่ไหนแต่ไรมาล้วนนับถือนิกายหินยาน จึงเริ่มแสดงธรรมให้น้องสายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องฟังก่อน พระธิดาสนพระทัยฟังเทศน์จนเกิดความศรัทธายิ่ง ทรงขอร้องอาจารย์ของพระองค์ให้ช่วยจัดแสดงธรรม เพื่อกุมารชีพจะได้มีโอกาสแสดงหลักธรรมนิกายมหายาน กุมารชีพพูดอธิบายให้มหาชนฟังเกี่ยวกับความว่างจากแก่นสารของสรรพสิ่ง ปัญจขันธ์อัฏฐารสธาตุ ล้วนเป็นเพียงชื่อหาใช่ความจริงไม่ ทันใดนั้น ผู้ฟังทั้งหลายต่างรู้สึกทันทีว่าได้ยินและได้พบความรู้ใหม่ๆ
|
|
回国之后,又过了几年,罗什在王宫受具足戒,成为正式比丘。这年,他二十岁。 หลังกลับมาอยู่แคว้นกุฉาหลายปี กุมารชีพได้เข้าประกอบพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่ถูกต้องตามพุทธวินัย เมื่ออายุ 20 ปีบริบูรณ์
|
|
罗什已经是一位知名的佛学大师了,但他仍孜孜不倦地学习,永远不满足。过去因为是小沙弥,所受戒律管束并不太严;现今已成为正式比丘,他便跟随卑摩罗叉律 师学习《十诵律》,以通晓戒律,用来规范自己的行动。 ถึงแม้กุมารชีพจะเป็นอาจารย์แห่งพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ แต่ท่านก็มุ่งมั่นเรียนรู้อย่างไม่ย่อท้อ อย่างไม่รู้สึกอิ่ม เมื่อก่อนเป็นเพียงสามเณรกฎวินัยยังไม่เข้มงวดนัก แต่เวลานี้เป็นพระภิกษุที่สมบูรณ์แล้ว จึงต้องศึกษาทศภาณวาร กับท่านอาจารย์วิมลักษะเรียนรู้เกี่ยวกับศีลข้อต่างๆ เพื่อเป็นมาตรฐานในการควบคุมความประพฤติให้กับตนเอง
|
|
这一年,龟兹国遭逢大旱,国势日趋衰败,人民陷于饥谨之中,耆婆担心发生战乱,想带罗什去天竺求法深造。 อยู่มาปีหนึ่ง แคว้นกุฉาประสบปัญหาแห้งแล้ง สถานะของประเทศนับวันยิ่งเสื่อมถอย พสกนิกรเผชิญภาวะข้าวยากหมากแพง องค์หญิงฉีผอทรงกังวลว่าจะเกิดศึกสงคราม จึงทรงคิดจะพากุมารชีพออกไปเดินทางศึกษาต่อยังชมพูทวีป
|
|
罗什在母亲的护翼下长大成人,他的心愿是要把大乘佛法宏扬到东土中国。如若随母亲远走天竺,这一志愿将永无实现之日,还会辜负老师的谆谆嘱托。他请母亲原谅自己不能尽孝,在亲情与佛法之间,原则了佛法。 กุมารชีพเติบโตภายใต้การดูแลปกป้องของพระมารดา ความหวังของกุมารชีพคือต้องการทำให้นิกายมหายานได้เผยแพร่ไปถึงประเทศจีน หากร่วมทางกับพระมารดาไปชมพูทวีปเจตจำนงก็ไม่มีวันบรรลุ ทั้งยังเป็นการเนรคุณต่ออาจารย์โสมะ ที่พร่ำฝากฝังให้เผยแพร่พระธรรมให้ไพศาล กุมารชีพขอพระมารดาให้อภัยที่เขาไม่สามารถเป็นลูกกตัญญูที่ดีพร้อม ระหว่างความรักที่มีต่อบิดามารดาและพระธรรมแห่งพุทธศาสนาแล้ว เขาเลือกพระธรรม
|
|
母亲是深明大义的人,然而中国是个陌生而遥远的国土,她担心地说:“到中国去弘扬大乘佛法的确非你莫属,只是我担心你孤身一人,困难重重啊!”罗什向母 亲表示:“菩萨学道是为了利益众生,如今我能弘扬大乘佛教,使众生开悟,哪怕要我身受炉镬的苦难,我也在所不惜,决不退缩。” แม้องค์หญิงฉีผอจะทรงเข้าใจเหตุผลดี ทว่าประเทศจีนเป็นดินแดนแปลกใหม่และแสนห่างไกล องค์หญิงตรัสกับพระโอรสอย่างห่วงใยว่า “การไปเผยแพร่มหายานธรรมนั้นใครเป็นอื่นไม่ได้นอกจากตัวเจ้า แต่แม่กังวลว่าเจ้าไปคนเดียวโดดเดี่ยว ความลำบากย่อมมากมายนัก” กุมารชีพทูลพระมารดาว่า “พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อยังประโยชน์แก่สรรพชีวิต ถ้าหากลูกสามารถเผยแพร่มหายานธรรมเพื่อให้สรรพสัตว์รู้แจ้ง แม้ร่ากายจะได้รับความทุกข์ร้อนดั่งไฟแผดเผาก็ไม่เสียดายชีวิต จะไม่ย่อท้อเป็นอันขาด”
|
|
母亲爱怜地说:“你的意志如此坚强,我很高兴,证明你已经长大成人,我的任务总算完成了。”母亲要到天竺去履行自己的誓言,同时印证自己所修的果位。母 子一别,也许后会无期。坚强的母亲鼓励孩子:“在你前进的路途中,不知会遇到多少艰难险阻,希望你要忍耐,要坚强,就是面临绝境也要或下去。” พระ มารดาทั้งรักและสงสาร ตรัสว่า “เจ้ามีความตั้งใจมั่น แม่ปลาบปลื้มใจนัก เห็นได้ชัดว่าเจ้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ภาระของแม่นับว่าลุล่วงแล้ว” พระมารดาต้องการไปชมพูทวีปเพื่อปฏิบัติตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้แต่แรก พร้อมยืนยันมรรคผลที่บำเพ็ญมา สองแม่ลูกจากันคราวนี้อาจไม่มีโอกาสพบกันอีก พระมารดาผู้ทรงมีจิตใจแข็งแกร่ง ให้กำลังใจลูกว่า “ลูกรักของแม่ ท่ามกลางหนทางก้าวหน้าของลูก ไม่รู้ว่าจะประสบขวากหนามเพียงใดหวังว่าลูกจะอดทน แน่วแน่ แม้จะตกอยู่ในสภาพอับจนก็ต้องสู้ เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้
|
|
母子商定之后,耆婆便去向白纯国王辞行,她要先行一步,让罗什暂时留在龟兹。她托付哥哥对罗什多加关照。她对哥哥说:“人很快就会衰老,我应该再求精进,决不虚度此生。”罗什与母亲互道珍重,依依泣别。 เมื่อสองแม่ลูกหารือกันเสร็จสิ้น องค์หญิงฉีผอก็ไปกราบบังคมลากษัตริย์ไปฉุน เพื่อขอออกเดินทางไปล่วงหน้า โดยให้กุมารชีพพักอยู่แคว้นกุฉาไปพลาง นางได้ฝากฝังพระเชษฐาให้ช่วยดูแลพระนัดดาด้วย พร้อมทูลว่า “คนเราแก่ชราได้รวดเร็ว ข้าพเจ้าต้องพากเพียรไม่ปล่อยให้ชีวิตล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์” กุมารชีพและมารดากอดร่ำลากันอย่างทะนุถนอม ร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความอาลัยรัก
|
|
母亲走了,罗什独自留下,住在国王新寺内。一天他在寺旁的故宫内发现一本《放光经》,十分高兴。他发现这部经语言通俗,文字优美,如“所言柔软无复懈 怠”,“所作不忘颜色和悦”,“所说如幻、如梦、如响、如影、如化、如水中泡、如镜中像、如热时炎、如水中月”等等。他认为用这种经文教化众生,一定易于 成功。เมื่อ พระมารดาเสด็จจากไป กุมารชีพพักอยู่เพียงลำพังที่วัดสร้างใหม่แห่งหนึ่ง วันหนึ่งกุมารชีพไปพบคัมภีร์เล่มหนึ่ง ชื่อว่า “ฟั่งกวางจิง” ในวังเก่าข้างวัดแห่งหนึ่ง ท่านรู้สึกดีใจอย่างยิ่งเพราะถ้อยคำที่ใช้ในคัมภีร์นั้นเรียบง่าย อักขระงามเลิศ ใช้ถ้อยคำสละสลวยไม่ซ้ำซาก ไม่ละเลยสีสันของบทประพันธ์ อาทิ “สิ่งที่พูดดั่งมา ดั่งฝัน เสมือนดัง เสมือนโชติช่วง เสมือนเงา เสมือนผันแปร เสมือนพรายน้ำ เสมือนภาพในกระจก เสมือนเปลวเพลิงร้อนระอุ เสมือนจันทราในวารี เป็นต้น” ท่านเชื่อว่าการใช้คัมภีร์เช่นนี้ การกล่อมเกลาสาธุชนย่อมสัมฤทธิ์ผลง่ายขึ้น
|
|
罗什潜心研读佛典,也时常想念母亲。母亲为了履行誓愿,为了追求佛法而甘愿吃苦的精神时时极力着他。转眼间两年过去了,向罗什拜师学习的人络绎不绝。国 王为了表示对罗什的尊重与喜爱,特地拿出王宫库存的黄金,为罗什打造了一个狮子座,铺上名贵的中国锦褥,供罗什升座说法之用。 กุมารชีพค้นคว้าตำราพุทธศาสตร์อย่างตั้งใจ และครุ่นคิดถึงพระมารดาอยู่เสมอ เพราะพระมารดามีปณิธานในการแสวงหาพุทธธรรม ยอมทนทุกข์ทรมานต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นกำลังใจผลักดันให้เขาอยู่เสมอ พริบตาเดียวก็ผ่านไป 2 ปี ผู้คนที่มามอบกายเพื่อศึกษาธรรมะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กษัตริย์ไปฉุนนำทองคำที่เหลืออยู่จากท้องพระคลังมาสร้างเป็นสีหาสนะลาดคลุม ด้วยเบาะแพรมีชื่อของประเทศจีน เพื่อให้กุมารชีพใช้แสดงธรรมโดยเฉพาะเป็นการแสดงออกถึงความนิยมนับถือ
|
|
每次法会都极其隆重,规格相当高。前来听经的大都是邻国国王、大臣和有名的学者,他们非常恭敬地长跪一侧,静候罗什登上宝座。年轻的罗什端坐在狮子座上,是那样的高贵与尊严,他神态安详、镇定自若地宣讲。 ทุกครั้งที่มีการแสดงธรรม สถานที่จะต้องจัดอย่างมีพิธีรีตองและยิ่งใหญ่ผู้มาฟังส่วนใหญ่เป็นกษัตริย์ แคว้นข้างเคียง มุขมนตรี ปราชญ์ที่มีชื่อเสียง ทุกๆท่านคุกเข่าด้วยความนอบน้อมอยู่ข้างๆ เผ้ารอกุมารชีพแสดงธรรมอย่างสำรวม กุมารชีพซึ่งยังเยาว์วัยขึ้นนั่งแสดงธรรมบนสีหาสนะอย่างสุภาพอ่อนโยน ท่วงท่าสูงสง่าเคร่งขรึมแสดงธรรมเหมือนปกติด้วยกริยาสงบสำรวม
|
|
罗什想到在“?宾国的师父盘头达多还未能知晓大乘佛法,便想告别国王,离开龟兹,前往?宾。”他好不容易说服了国王。 กุมารชีพคิดขึ้นมาได้ว่า พันโธเทวทัตเถระซึ่งอยู่แคว้นกุภาน ยังไม่ได้รับทราบเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับนิกายมหายาน จึงคิดจะอำลากษัตริย์กุฉาไปแคว้นกุภาน แต่กว่าจะขออนุญาตกษัตริย์ไป่ฉุนได้ก็ต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อย
|
|
正在辞别间,有人禀报有个叫盘头达多的法师前来求见。国王和罗什都大喜过望,忙出宫迎接。罗什恭敬地向师父行礼问安,师父也情不自禁地伸出双手,将罗什环抱。 ขณะที่ล่ำลากันอยู่นั้น มีผู้มารายงานว่ามีพระเถระรูปหนึ่งชื่อพันโธเทวทัตขอพบกษัตริย์และกุมารชีพ กุมารชีพดีใจสุดจะบรรยายรีบออกจากวังมาต้อนรับ กุมารชีพทำความเคารพไถ่ถามทุกข์สุขกับอาจารย์อย่างนอบน้อม อาจารย์ก็อ้าแขนโอบกอดกุมารชีพด้วยความรักใคร่
|

|
国王以极其隆重的礼节接待盘头达多,将他安排在罗什修行的新寺内居住。夜晚,师徒俩在禅房谈心,共叙别后情形。盘头达多问:“听说你已经改习大乘,而且在龟兹国广为宏扬,是真的吗?” กษัตริย์จัดพิธีต้อนรับพันโธเทวทัตเถระตามธรรมเนียมอย่างยิ่งใหญ่ จัดให้พักอยู่ห้องปฏิบัติธรรมกุฎิเดียวกับกุมารชีพ ตกค่ำคืนอาจารย์กับศิษย์นั่งสนทนากันที่กุฎิถึงเรื่องต่างๆ นับแต่จากกัน พระเถระถามว่า “ได้ข่าวว่าท่านเปลี่ยนจากนับถือนิกายหินยานเป็นนิกายมหายาน และได้เผยแพร่อย่างกว้างขวางในแคว้นกุฉา เป็นเรื่องจริงหรือ”
|
|
罗什兴奋地点点头:“是的师父。”在师父的许可下,他高兴地向师父诵读《德女问经》当读到“一切诸法皆毕竟空”之句时,盘头达多欲言又止。罗什再继续读 下去:“今者如来所转法轮,是虚空法轮、性空法轮、出离法轮、通达法轮,不思议法轮、无能转者法轮......”时,盘头达多实在忍不住了:“你所诵的这 部经,究竟有什么微妙之处,值得你如此推崇?”กุมาร ชีพพยักหน้าอย่างตื่นเต้นดีใจ “จริงขอรับ อาจารย์” ภายใต้การอนุญาตของอาจารย์เขาขออ่าน เต๋อหนวี่เวินจิง อย่างเสียงดังให้อาจารย์ฟัง เมื่ออ่านถึงประโยคที่ว่า “หลักธรรมทั้งหลาย สุดท้ายคือความว่างเปล่า” พระเถระทำท่าจะพูดแต่แล้วก็ยั้งไว้ กุมารชีพ อ่านต่อว่า “ธรรมจักรที่พระยูไลหมุนเคลื่อนในยามนี้เป็นธรรมจักรอันว่างเปล่า ธรรมจักรอันมีธรรมชาติว่างเปล่า ธรรมจักอันสละออกจากกาม ธรรมจักรอันผ่านทะลุถึงกัน ธรรมจักอันเป็นอจินไตย ธรรมจักรอันบุคคลไม่อาจหมุนเคลื่อนได้ ...ถือตอนนี้ พระเถระอดรนทนไม่ได้อีกต่อไปถามกุมารชีพว่า “คัมภีร์ที่ท่องอยู่นี้ จริงๆ แล้วมีอะไรลี้ลับลึกซึ้งหรือ ท่านจึงเห็นสมควรแก่การสรรเสริญยกย่อง”
|
|
罗什说:“这部经所讲的义理,微妙通达,说明一切皆空。”盘头达多说:“你说一切法都是空的,这想法太可怕了。那有舍弃法而爱空的呢?”罗什耐心地说: “常人所说的空,其实不是真正的空,是有。而大乘法所说的空却是彻底的空,甚至连‘空’的观念也是空的。”盘头达多不理解。 กุมารชีพตอบว่า “หลักธรรมของคัมภีร์มีความหมายลึกซึ้งอัศจรรย์นัก ไขความได้ว่าสรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า” พระเถระกล่าวว่า “ท่านบอกว่า ธรรมทั้งหลายคือความว่างเปล่า ความคิดนี้น่ากลัวจริงๆ มีที่ไหนให้ละทิ้งหลักธรรมที่มีตัวตน ไปนับถือหลักธรรมทีมีแต่ความว่างเปล่า” กุมารชีพอธิบายต่อว่า คำว่า “ว่างเปล่า” ที่ปุถุชนพูดนั้นความจริงแล้วไม่ใช่ความว่างเปล่า แท้จริงคือ “มี” แต่ความหมายของมหายานที่ว่า “ว่างเปล่า” นั้นเป็นความว่างเปล่าถึงที่สุด แม้แต่ความคิดเกี่ยวกับความ “ว่างเปลา” ก็คือความ “ว่างเปล่า” พันโธเทวทัตเถระงุนงงไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
|
|
罗什知道老师长期研读小乘,执着已久,一下不易接受,便用种种方便的譬喻,又引经据典,耐心加以解释。经过多次辩论,盘头达多彻底信服了大乘,他诚恳地 说:“我这个做老师的不了解大乘的道理,反要弟子启发,惭愧之至,从今天起,你便是我的大乘老师。”กุมาร ชีพ เข้าใจถึงความยึดติดของพันโธเทวทัตเถระ ที่คุ้นเคยและค้นคว้าศึกษาแต่นิกายหินยาน ย่อมไม่ยอมรับนิกายมหายานได้ง่ายๆ ในเวลาอันสั้น จึงเปรียบเทียบอย่างง่ายๆหลากหลายแง่มุมอ้างอิงตำรับตำรา ใช้ความอดทนค่อยๆชี้แจง หลังจากโต้แย้งกันหลายครั้ง ในที่สุด (เกิดพุทธิปัญญา) พันโธเทวทัตเถระก็เข้าใจถึงแก่นแท้ จึงศรัทธาต่อนิกายมหายาน และพูดด้วยความเลื่อมใสว่า “อาตมา ในฐานะครูบาอาจารย์ไม่เข้าใจหลักธรรมของมหายานกลับต้องให้ลูกศิษย์ชี้แนะ ช่างน่าละอายใจจริง นับจากวันนี้ ท่านก็คือ อาจารย์ผู้สอนหลักธรรม มหายานของอาตมา”
|
|
罗什忙说:“弟子不过尽了些弘法的责任,怎么能在老师面前称师呢?”盘头达多说:“今天既已皈依大乘,你就是我的大乘老师,这没什么不好的。”盘头达多 说着,就站起来,要给罗什行礼。罗什一见,慌忙阻止道:“这个万万使不得,您永远是我的老师,没有您就没有我的今天!”师徒俩执手相视而笑,两人都非常诚 恳真挚,成就了佛教史上的一段佳话。 กุมารชีพรีบตอบว่า “ศิษย์เพียงทำหน้าที่ถ่ายทอดหลักธรรมให้ดีที่สุดเท่านั้น จะอาจเอื้อมเป็นอาจารย์ของท่านได้อย่างไร” พันโธเทวทัตเถระตอบว่า “ในเมื่อวันนี้เสื่อมใสนิกายมหายานแล้วท่านก็คืออาจารย์ ไม่มีอะไรไม่ถูกต้อง” พันโธเทวทัตเถระพูดพลางยืนขึ้นประนมกรคารวะกุมารชีพ กุมารชีพเห็นเช่นนั้น ก็รีบห้ามปราบไว้บอกว่า “ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด ท่านเป็นอาจารย์ของอาตมาตลอดไป หากไม่มีท่านก็ไม่มีอาตมาในวันนี้” อาจารย์กับศิษย์จับมือยิ้มแย้มอย่างเข้าอกเข้าใจกัน ทั้งสองสนิทสนมรักใคร่อย่างบริสุทธิ์ใจ กลายเป็นเรื่องดีงามที่เล่าลือกันในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา
|
|
这时候,中国北方的大部分地区陷于战乱之中,正是历史上的十六国时期。公元357年,月氏族首领苻坚攻克关中,在长安称帝,自称大秦天王,改国号永兴元年。 ช่วงเวลานั้น ทางทิศเหนือของประเทศจีน พื้นที่ส่วนใหญ่ตกอยู่ในภาวะศึกสงครามซึ่งในประวัติศาสตร์ก็คือสมัยสิบหก แคว้น ระหว่างปี พ.ศ.900 ชาวกุษาณ มีหัวหน้าชื่อ ฝูเจียน ยึดครองแผ่นดินใหญ่จีนบางส่วน ตั้งตัวเป็นกษัตริย์อยู่นครฉางอานมีพระนามว่าต้าฉินเทียนหวัง เปลี่ยนรัชสมัยแผ่นดินเป็น ปีหย่งซิงที่ 1
|
|
苻坚信奉佛教,很想把名僧道安从襄阳请到长安供养,让他在长安说法。此时,正是道安在东晋一生中事业最顺利的时候。他在襄阳影响很大,名闻天下。苻坚多次派人去请,并馈赠珍宝,但道安不为所动。 กษัตริย์ฝูเจียน ทรงนับถือพุทธศาสนา ตั้งพระทัยจะนิมนต์ธรรมาจารย์เต้าอัน ผู้ที่มีชื่อเสียงจากเมืองเซียงหยาง ให้มาพำนักที่นครฉางอานเพื่อแสดงธรรม ยามนั้นเป็นช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุดของธรรมาจารย์เต้าอันซึ่งพำนักอยู่ ที่เมืองตงจิ้น ธรรมาจารย์เต้าอันมีส่วนสำคัญต่อเมืองเซียงหยางมาก ชื่อเสียงของท่านระบือไปทั่วหล้า กษัตริย์ฝูเจียนให้คนไปนิมนต์หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากธรรมาจารย์เต้าอันแต่ประการใด
|
|
于是,苻坚派苻丕率兵攻打襄阳。襄阳失守,道安被苻丕手下的将士带往北方。 ดังนั้น กษัตริย์ฝูเจียนจึงรับสั่งให้ฝูพี นำทหารไปโจมตีเซียงหยาง ในที่สุดเมืองเซียงหยางต้านรับไม่ได้จึงถูกตีแตก ธรรมาจารย์เต้าอันจึงถูกทหารใต้บัญชาของฝูพีนำตัวขึ้นมาทางเหนือ
|
|
苻坚见到道安,满脸含笑,连忙喝退两名押送的将士,为道安接风洗尘,并请他上殿详谈。道安道:“大王兴师动众,就是为了寻求高僧。现在龟兹国就有一位鸠摩罗什法师,他通晓大乘佛法,被称为舍利弗再世,大王不如请他吧。”กษัตริย์ ฝูเจียน ได้พบกับธรรมาจารย์เต้าอันด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้ม ทรงรับสั่งให้ทหาร 2 คนที่คุมตัวมาส่งนั้นถอยไป จัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่พร้อมนิมนต์ไปสนทนาที่ท้องพระโรง ธรรมาจารย์เต้าอันพูดว่า “พระองค์ทรงยกทัพเคลื่อนพลมากมาย เพื่อค้นหาพระเถระผู้ใหญ่ที่มีความสามารถสูง เวลานี้แคว้นกุฉามีท่านผู้หนึ่ง มีความรอบรู้ทุกด้าน เข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับนิกายมหายาน ได้รับสมญานามว่า เป็นพระสารีบุตรกลับชาติมาเกิด พระองค์ทรงรับสั่งนิมนต์ท่านกุมารชีพมาเถอะ”
|
|
再说,这时的龟兹国内,国王的弟弟白震窥伺王位已久,因实力不够,便想借他人之手推翻白纯。他联合前部王到长安游说攻打西域。苻坚先是口头答应而没有行 动。前秦建元十七年(公元381年),前部王与鄯善王再次游说苻坚攻打西域,苻坚认为时机已到,便不再犹豫,积极调派军队。 กล่าวถึงเหตุการณ์ภายในของแคว้นกุฉา พระอนุชาของกษัตริญ์ไปฉุน ชื่อไป่เจิ้นคอยจ้องหาโอกาสชิงพระราชบัลลังก์มานานแล้ว แต่เพราะยังไม่มีกำลังพอจึงคิดอาศัยยืนกำลังคนอื่นมาโค่นล้มพระเชษฐาไป่ฉุน ไป่เจิ้นสมคบกับกษัตริย์เฉียนปู้ ไปโน้มน้าวกษัตริย์ฝูเจียนเพียงตอบรับด้วยปากเปล่าแต่ยังไม่เคลื่อนไหวกระทำ การใดๆ จนถึงรัชสมัยต้นฉินเจี้ยนเหวียนปีที่ 17 กษัตริย์เฉียนปู้และกษัตริย์ซั่นซั่น ไปโน้มน้าวกษัตริย์ฝูเจียนให้ยกทัพโจมตีดินแดนทางตะวันตกอีก คราวนี้กษัตริย์ฝูเจียนคิดว่าโอกาสมาถึงแล้วจึงไม่ลังเลพระทัย เคลื่อนทัพจัดส่งกำลังทหารอย่างขะมักเขม้นเตรียมออกโจมตี
|
|
建元十八年(382)九月,苻坚派大将吕光偕同将军姜飞统步兵七万、骑兵五千,征伐龟兹和乌耆等国。苻坚之所以决心攻打西域,一个最主要的原因,是为了 得到鸠摩罗什。因为自从道安来长安三年之后,长安城内风气大为改观,诗赋之士纷纷依附。而罗什为西域高僧,如能得他辅佐,必定锦上添花。苻坚在为吕光饯别 时,郑重叮嘱他切不可伤害鸠摩罗什。 เจี้ยนเหวียนปีที่ 18 (ปี คศ.382) เดือนเก้า กษัตริย์ฝูเจียนส่งแม่ทัพใหญ่ หลวี่กวางพร้อมทั้งนายพลเจียนเฟย รวมรวมทหารราบ 7 หมื่นคน ทหารม้า 5 พันคน ไปปราบปรามแคว้นกุฉา แคว้นอัคนิ และประแทศข้างเคียง การที่กษัตริย์ฝูเจียนตัดสินพระทัยไปโจมตีประจิมประเทศนั้น เหตุผลสำคัญที่สุดคือ มีพระประสงค์จะได้ท่านกุมารชีพมาอยู่ที่ฉางอาน เพราะว่าตั้งแต่ธรรมาจารย์เต้าอันมาจำวัดที่นครฉางอาน 3 ปีมานี้ สภาพแวดล้อม และบรรยากาศทั่วไปในนครฉางอานเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นมาก มีเหล่ากวีหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านกุมารชีพเป็นพระเถระใหญ่แห่งประจิมประเทศ หากได้ท่านมาช่วยเหลือย่อมเหมาะเจาะดังแพรไหมประดับแซมด้วยบุปผาชาติ กษัตริย์ฝูเจียน จัดงานเลี้ยงส่งให้กับแม่ทัพใหญ่หลวี่กวาง พร้อมกำชับให้ระมัดระวังห้ามทำร้ายท่านกุมารชีพเด็ดขาด
|
|
此时的鸠摩罗什已经三十九岁了。这天他在讲经时,突然心跳难平,似乎将有战乱发生。他将自己的感觉告诉国王,国王派人出去侦察。几天后,有密探来抱,大秦国吕光、姜飞的军队已经到了三百里以外。国王一听,立即传令全国,紧急备战。 ในปีนั้น ท่านกุมารชีพอายุ 39 ปี วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังแสดงธรรมอยู่รู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ ท่านสังหรณ์ใจว่าอาจจะมีชนวนเหตุให้เกิดศึกสงครามขึ้นได้ ท่านกราบทูลกษัตริย์กุฉาถึงความรู้สึกของตน พระองค์ส่งทหารไปคอยสอดแนมไม่กีวันก็มีสายลับกลับมาทูลว่า แม่ทัพใหญ่หลวี่กวางและเจียนเฟยแห่งแคว้นฉิน ได้ยกกองทัพใหญ่มาถึงแล้ว ห่างแค่ 300 ลี้เท่านั้น กษัตริย์ไปฉุนจึงทรงมีบัญชาให้คนทั้งประเทศเตรียมพร้อมเพื่อทำสงครามอย่าง เร่งด่วน
|
|
不出三天,吕光的大军兵临城下,将龟兹国王城紧紧地包围了起来。面对入侵者,白纯决心率领全城军民奋力抵抗,决不妥协投降。他尽管势单力薄,却怒目圆睁,号令手下将领出城迎战。 ไม่เกิน 3 วัน กองทัพใหญ่ของแม่ทัพกลวี่กวางเคลื่อนทัพใหญ่มาประชิดกำแพงเมืองปิดล้อมแคว้น กุฉาไว้ทุกด้าน กษัตริย์ไปฉุนเผชิญหน้ากับผู้รุกราน ตัดสินพระทัยนำทหารประชาชนทั่วแคว้นต่อสู้ถึงที่สุด จะไม่ยอมอ่อนน้อมสวามิภักดิ์เป็นอันขาด ถึงแม้ว่าแสนยานุภาพจะเป็นรองกว่าในทุกด้าน แต่พระองค์ทรงมีพระพักตร์หนักแน่นเข้มแข็ง พระเนตรดุดัน มีพระบัญชาให้ขุนศึกและทหารทุกฝ่ายเตรียมพร้อมออกสู้รบกับข้าศึก
|
|
鸠摩罗什在分析了敌我双方的兵力之后,料定此战必败,会白白牺牲许多将士,他几次劝国王放弃抗击,国王就是听不进去。此时,他看到国王就要带兵去迎战,忙上前劝阻,但哪里劝阻得了? ท่านกุมารชีพวิเคราะห์กำลังสภาพแวดล้อมของข้าศึกกับกำลังของแคว้นกุฉา เห็นว่าการศึกสงครามครั้งนี้แคว้นกุฉาคงต้องเป็นฝ่ายปราชัย สูญเสียชีวิตมากมายเปล่าประโยชน์ท่านจึงได้ตักเตือนอ้อนวอนกษัตริย์ไปฉุนให้ ทรงปล่อยวางเรื่องรบราฆ่าฟันหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรพระองค์ก็ไม่ทรงรับฟัง และทรงเตรียมพระองค์นำทัพออกศึกอีก ท่านกุมารชีพรีบยับยั้งห้ามปราม แต่ไหนเลยที่จะยับยั้งพระองค์ได้
|

|
吕光的军队见年老体衰的龟兹国王亲自出城督战,一时都愣住了。霎时,两军对峙,像一座爆发前的火山。几分钟之后,喊声震天,兵器的撞击声不绝于耳,人马纷纷倒地,血光冲天,尸横遍野。最后,如洪水猛兽般的吕光大军占了上风,国王白纯在混战中被杀。 แม่ทัพหลวี่กวาง เห็นกษัตริย์แคว้านกุฉาที่ชราและอ่อนแอ ทรงออกศึกสู้รบด้วยพระองค์เองก็ตกตะลึงชั่วขณะ กองทัพทั้งสองฝ่ายตั้งประจันหน้ากันเหมือนภูเขาไฟร้อนที่แรงพร้อมที่จะประทุ เพียงไม่กี่อึดใจ ครั้นแล้วเสียงโห่ร้องกึกก้องสนั่นฟ้า เสียงปะทะของศาสตราวุธดังไม่ขาดหู คนและม้าล้มระเนระนาด กลิ่งคาวเลือดคลุ้งไปทั่วปฐพี ซากศพเกลื่อนกลาด การสู้รบของทัพแม่ทัพกลวี่กวางเสมือนสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากและสัตว์ดุร้าย ทรงพลังจึงได้เปรียบ ในทีสุดกษัตริย์ไป่ฉุนก็ทรงสิ้นพระชนม์ระหว่างการสู้รบ
|
|
吕光的部队占领了王城,吕光骑在马上威风凛凛地进城。鸠摩罗什被吕光的将士押者去见吕光。 หน่วยทหารของแม่ทัพกลวี่กวางยึดครองแคว้นกุฉา หลวี่กวางขี่ม้าเข้าเมืองอย่างองอาจน่าเกรงขาม ท่านกุมารชีพถูกทหารคุมตัวเข้าพบแม่ทัพหลวี่กวางทันทีที่มาถึง
|
|
吕光立白震为新国王。这位奸佞的小人终于如愿以偿,当起了傀儡。为了感恩,白震在王宫大开宴会,奴才般地向吕光几敬酒。吕光根本不把白震放在眼里,他肆无忌惮地吃喝玩乐,放纵他的部队在城里到处搜刮、掠夺。 แม่ทัพหลวี่กวาง แต่งตั้งไปเจิ้น (พระอนุชาของกษัตริย์ไปฉุน) เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ คนชั่วช้าทรยศชาติผู้นี้ได้เป็นกษัตริย์สมดังหวัง แต่เป็นเพียงหุ่นเชิด เพื่อแสดงการตอบแทนกษัตริย์ไป่เจิ้นจึงจัดงานเลี้ยงขึ้นในวังอย่างใหญ่โต ยกสุราให้แม่ทัพหลวี่กวางเหมือนข้าทาสนอบน้อมเจ้านาย ส่วนแม่ทัพหลวี่กวางนั้นไม่เห็นกษัตริย์ไป่เจิ้นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยเขา กินดื่มเที่ยวเล่น ทำตัวตามใจชอบอย่างไม่เกรงกลัวใคร ทั้งยังปล่อยให้ทหารในกองทัพกำเริบเที่ยวปล้นสะดมทรัพย์สินของชาวบ้านทุก แห่งหน
|
|
寡廉鲜耻的吕光居然命人将白纯的女儿带来陪伴他。长公主冷若冰霜的脸上,一股凛然不可侵犯的气概,是那么典雅、端庄、高贵。她容颜美丽,体态婀娜,如玉的 皮肤细腻洁白。吕光只觉得眼前一亮,情不自禁地赞叹:“真是国色天香,旷世佳人呢!” คนไร้ยางอายอย่างแม่ทัพหลวี่กวางให้ทหารไปนำตัวองค์หญิงจั่ง (พระธิดาของกษัตริย์ไป่ฉุน) มาเป็นเพื่อนดื่มสุรา องค์หญิงมีสีหน้าเย็นชา บุคลิกสง่างามน่าเกรงขามงดงามสูงส่ง เรือนร่างก็ช่างชดช้อย ผิวพรรณขาวเนียนหมดจด แม่ทัพหลวี่กวางตกตะลึง ดวงตาเป็นประกาย อุทานออกมา “สวยดั่งบุปผาชาติ งามดังนางฟ้าเป็นหนึ่งไม่มีสองจริงๆ”
|
|
鸠摩罗什被带进宫去见吕光。吕光原以为鸠摩罗什是一位**老人,及至见了,竟如此年轻。他想不到鸠摩罗什这样年轻就会有如此大的声望。罗什见了吕光,双目微闭,双手合十,不卑不亢地回答吕光的询问,沉静得像 一泓池水。吕光的心情却非常复杂。ท่าน กุมารชีพ ถูกนำตัวเข้าพบแม่ทัพหลวี่กวาง แม่ทัพหลวี่กวางคิดว่ากุมารชีพคงเป็นคนแก่อายุเจ็ดสิบขึ้น เมื่อได้เห็นตัวจริง คิดไม่ถึงว่าอายุยังเยาว์ก็มีชื่อเสียงเกียรติคุณถึงเพียงนี้ ท่านกุมารชีพหรี่ตาเล็กน้อย พนมมือทำความเคารพ ตอบคำถามของแม่ทัพหลวี่กวางอย่างไม่สะทกสะท้านไม่เย่อหยิ่ง สีหน้าท่าทีสงบราวกับบ่อน้ำนิ่ง ส่วนจิตใจของแม่ทัพกลับตื่นเต้นสับสนอย่างบอกไม่ถูก
|
|
入夜,吕光越想越气:“皇上命我率领七万五千大军长途出征,就为了这么个小子?”想起这几个月来风餐露宿的辛苦和流血战场的厮杀,憋了一肚子的或,心里烦躁不安。他想报复鸠摩罗什,却又不能伤害他的身体。于是他想起了美貌的长公主,决心来一次恶作剧。 แม่ทัพหลวี่กวาง ยิ่งคิดยิ่งโกรธเคือง “เพียงเพื่อพระสงฆ์น้อยๆรูปนี้ ทำให้ต้องนำไพร่พล 75,000คน ตรากตรำทำศึกยาวไกลถึงเพียงนี้หรือ” หวนคิดว่าหลายเดือนมานี้ต้องทนลำบากนอนกลางดินกินกลางทราย ยิ่งคิดยิ่งบันดาลโทสะว้าวุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง จึงคิดจะกลั่นแกล้งท่านกุมารชีพแต่ทำร้ายร่างกายท่านไม่ได้ ก็หวนคิดถึงองค์หญิงจั่งผู้เลอโฉมขึ้นมาทันที ตัดสินใจจะกลั่นแกล้งทำลายชื่อเสียงของท่านกุมารชีพ
|
|
计谋已定,心中的烦恼立即烟消云散。他开心地喝起酒来。喝了一会,突然叫道:“来人!”一士兵立刻走进来:“将军,有何吩咐?”吕光兴奋地说道:“快把鸠摩罗什带来!”士兵回答:“是!” เมื่อมีกลอุบายที่จะกลั่นแกล้ง จิตที่ว้าวุ่นกลัดกลุ้มก็จางหายไปทันที ร่ำสุราต่อไปอย่างสบายอารมณ์ สักครู่ก็เรียกทหารไปนิมนต์ท่านกุมารชีพเข้ามาพบในห้อง
|
|
鸠摩罗什被带了进来,仍是那样平静如水。吕光大笑一阵之后,说:“听说你是舍利弗再世。既如此,就应该娶妻生子,传法种于后代。”罗什忙说:“出家人当 严守戒律,怎能娶妻生子呢?”吕光哈哈大笑:“我已经给你物色了一位绝代佳人,把长公主嫁给你,你看怎么样?”鸠摩罗什知道吕光在逼迫他,仍坚决加以拒 绝。 ท่านกุมารชีพ ยังคงมีสีหน้าเยือกเย็นสงบเรียบดังผิวน้ำ แม่ทัพหลวี่กวางหัวเราะเสียงดังพูดว่า “ว่ากันว่าท่านคือพระสารีบุตรกลับชาติมาเกิด ถ้าเช่นนั้นท่านก็ต้องแต่งงานมีบุตรจะได้มีธรรมทายาทสืบทอดต่อไป” ท่านกุมารชีพรีบตอบว่า “ผู้ออกบวชต้องเคร่งครัดต่อกฎวินัย จะแต่งงามมีบุตรได้อย่างไร” แม่ทัพหลวี่กวางหัวเราะอย่างสนุกสนาน “ข้าพเจ้าได้เสาะหาสาวงาม งดงามอย่างไม่มีใครเปรียบ จะให้องค์หญิงจั่งสมรสกับท่าน ท่านจะว่าอย่างไร” ท่านกุมารชีพทราบดีว่าแม่ทัพหลวี่กวางกำลังบีบคั่นท่าน จึงยืนกรานปฏิเสธอย่างแข็งขันเด็ดขาด
|
|
吕光冷笑一阵,嘲弄地说:“我听人说‘一个有道德的人,他的的德行不应该超过他的父亲。’你的父亲可以还俗娶妻,你有什么不可以呢?”吕光想:“料你也难以逃脱我的手心。”于是,他缓了缓口气,说:“好吧,我现在也不强迫你,你回去好好想想吧。” แม่ทัพหลวี่กวางหัวเราะเยาะครู่หนึ่ง พูดอย่างเย้ยหยันว่า “ได้ยินคนบอกว่า ผู้ทรงคุณธรรมนั้น ไม่ควรมีคุณธรรมสูงเกินบิดาตน บิดาของท่านยังสามารถลาสิกขาบทได้ท่านมีอะไรจะทำไม่ได้เล่า” หลวี่กวางครุ่นคิดอยู่ในใจว่า “คาดว่าท่านคงยากที่จะหลุดพ้นเงื้อมมือข้าพเจ้า” ครั้นแล้ว เขาค่อยๆพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า “เอาละ ข้าพเจ้าจะไม่บีบคั้นท่านเดี๋ยวนี้ ท่านกลับไปตรึกตรองดูเถอะ”
|
|
过了几天,吕光派人到枷蓝寺请鸠摩罗什进宫参加晚宴。罗什被带进宫,吕光大笑着请他喝酒。鸠摩罗什哪肯破戒?吕光就命人强行灌酒。见罗什被灌,吕光放声大笑道:“哈哈哈!这不就得了吗?酒可是好东西呀!哪有男人不会喝酒的呢?”
หลังจากนั้นไม่กี่วัน แม่ทัพหลวี่กวางก็ให้ทหารไปนิมนต์ท่านกุมารชีพ ที่วัดเจียหลันเข้ามาร่วมงานเลื้ยงในวัง เมื่อท่านกุมารชีพมาถึง แม่ทัพหลวี่หัวเราะเสียงดังและเชื้อเชิญให้ร่วมดื่มสุรา ท่านกุมารชีพย่อมไม่ยอมละเมิดกฎวินัยแน่ แม่ทัพหลวีกวางก็ให้ทหารกรอกเหล้าบังคับให้ดื่ม แม่ทัพเห็นภาพที่ท่านกุมารชีพถูกทหารกรอกเหล้าก็หัวเราะอย่างดีอกดีใจ “ฮา ฮา ฮา นี่ก็ดื่มได้แล้วมิใช่หรือ สุราเมรัยเป็นของดีจริงๆนะ มีที่ไหนกันที่ผู้ชายดื่มสุราไม่เป็น”
|
|
酒的味道,使从未接触过酒的鸠摩罗什难受极了。接着姜飞将军也来向罗什“敬酒”,诸将们不容分说,一个接一个地把酒从罗什口中灌下去。罗什只感到头痛欲裂,眼前金星只冒,胸膛像要爆炸似的难受。吕光见时机已到,对士兵们叫道:“你们去把长公主请来!”ฤทธิ์ ของสุรานั้น ทำให้ท่านกุมารชีพลิ้มรสอย่างทรมาน เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมายังไม่เคยสัมผัสสุรามาก่อน นายพลเจียนเฟยก็รินเพิ่มให้ดื่มอีก รวมถึงเหล่าทหารนายกองคนแล้วคนเหล่าทยอยมากรอกเหล้าใส่ปากท่านกุมารชีพ จนท่านรู้สึกปวดศีรษะเหลือทนจนแทบระเบิด แม่ทัพหลวี่กวางเห็นว่าโอกาสมาถึงแล้ว จึงสั่งให้ทหารไปเชิญองค์หญิงจั่งเข้ามาในห้อง
|
|
公主被带了进来,吕光指着公主向罗什挑逗。其实,这时的罗什已经什么也听不进去了,他只是难受地用手抱着头.可怜的公主也茫然不知所错。 องค์หญิงจั่งถูกนำตัวเข้ามาในห้อง แม่ทัพหลวี่กวางชี้ไปที่องค์หญิงจั่งเพื่อยั่วเย้าท่านกุมารชีพ แน่นอนทีเดียว ยามนี้ท่านกุมารชีพไม่สามารถรับรู้อะไรอีกต่อไป ท่านเอาแต่กุมศีรษะอย่างปวดร้าว สงสารก็แต่องค์หญิงจั่งที่ประทับอยู่เคียงข้างไม่ทราบจะวางตัวอย่างไร
|
|
过了不久,罗什终于抵抗不住酒性,无力的倒在桌子上,昏睡过去.吕光命人将罗什与公主一起关在一间密室里,自己则带者部下,得意地离开,又去寻欢作乐了。 เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ท่านกุมารชีพทนพิษฤทธิ์สุราไม่ไหว ล้มฟุบลงกันโต๊ะอย่างสิ้นเรี่ยวแรงเมาพับหลับไป แม่ทัพหลวี่กวางให้ทหารนำท่านกุมารชีพกับองค์หญิงจั่งขังอยู่ในห้องลับเดียว กัน แล้วแม่ทัพหลวี่กวางก็พาทหารจากไปหาความสุขภายนอกอย่างสมใจ
|
|
次日,昏睡了一夜的罗什睁开了眼睛.他发现这不是他的禅房,而是一个完全陌生的地方.他看到长公主坐在角落里低声哭泣,非常伤心.他再三问表妹后,才恍然大悟:“啊!天哪!我喝了酒,我违反了戒律。”悔恨与痛苦,一起向他袭来。วัน รุ่งขึ้น ท่านกุมารชีพที่หลับใหลตลอดคืน ลืมตาขึ้นรู้สึกแปลกใจที่พบว่าไม่ใช่กุฎิของท่าน และเห็นองค์หญิงจั่งทรงประทับกรรแสงอยู่มุมห้องอย่างเสียพระทัย สอบถามเมื่อรู้ความจากองค์หญิง จึงใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น “โอ้ อนิจจา อาตมาดื่มสุรา ละเมิดกฎวินัยเสียแล้ว “ ความสำนึกเสียใจและทุกข์ร้อนเอ่อประดังขึ้นมาในใจท่านโดยพร้อมเพรียง
|

|
公主哭着告诉他:“吕光说,你一天不娶我,他就一天杀一个龟兹而且还要强暴我。”罗什听了这话,如雷轰顶。他已经清楚,他落入了吕光的圈套:若坚守道行,百姓必定遭殃;若保全百姓,自己坚守了几十年的道行和戒行必然被毁。 องค์หญิงจั่งทรงกรรแสง ตรัสกับท่านกุมารชีพว่า “หลวี่กวางพูดว่า หากท่านไม่แต่งงานกับข้าพเจ้า เขาก็จะฆ่าพลเมืองชายชาวกุฉาวันละคน และยังจะใช้อำนาจบังคัยข้าพเจ้าอีก” ท่านกุมารชีพได้ยินเช่นนั้น เหมือนฟ้าผ่าลงยังศีรษะ ท่านเข้าใจดีว่าได้ตกสู่หลุมพรางเสียแล้ว หากยึดมั่นรักษาศีล พสกนิกรย่อมต้องเผชิญเคราะห์ หากจะรักษาชีวิตชาวบ้าน ศีลที่ท่านยึดมั่นปฏิบัติ และวินัยที่รักษาอย่างเคร่งครัดมาหลายสิบปีนั้น ก็สูญสลายไปในที่สุด
|
|
罗什想到了死。他想用自己的生命保全老百姓,维护出家人的名节。公主苦得更伤心了。罗什由公主而想到了母亲,想到母亲的临别赠言:“为了宏扬佛法,要忍耐,要坚强就是面临绝境也要或下去。”
ท่านกุมารชีพคิดสละชีพตนเองเพื่อปกป้องชีวิตชาวเมือ และธำรงชื่อเสียงความสัตย์ของผู้บรรพชาไว้ องค์หญิงจั่งยิ่งกรรแสงอย่างเศร้าพระทัย ทันทีที่แลเห็นองค์หญิงก็ระลึกถึงพระมารดา หวนคิดถึงคำเตือนใจที่พระมารดาฝากไว้ “เพื่อถ่านทอดพุทธธรรมให้กว้างไกลต้องอดทน ต้องเข็มแข็งแม้จะตกอยู่ในสภาพอับจน ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้”
|
|
他又想到了苏摩的话和自己的回答:“希望你能将大乘佛教经典广为传播。”“我将以此为毕生使命。”当时的情景,清晰地出现在眼前。他想:“是啊!我曾立 誓将大乘佛法传到中国去,可是,因种种原因,二十多年过去了一直未能如愿!如果我活着,来日方长,我定远赴中国弘法。活着也许比死还难,但为了弘法,我必 须活着。” ท่านกุมารชีพ ระลึกถึงคำสอนและคำฝากฝังของท่านอาจารย์โสมะ และคำตอบรับของตัวท่านเอง “หวังว่าเจ้าจะถ่ายทอดนิกายมหายานให้กว้างไกลออกไป” “ศิษย์จะถือเป็นปณิธานอันยิ่งใหญ่ชั่วชีวิต “ เหตุการณ์ในอดีตปรากฏชัดอยู่เบื้องหน้า ท่านกุมารชีพคิดต่อไปว่า “ใช่แล้ว อาตมาเคยตั้งสัตย์ปฏิญาณจะเผยแพร่ธรรมไปถึงประเทศจีน แต่เพราะเหตุผลหลายประการ ปล่อยให้ล่วงเลยไปยี่สิบกว่าปียังไม่สมหวัง หากอาตมายังมีชีวิตอยู่ วันข้างหน้ายังมีโอกาสอีกมาก อาตมาต้องเผยแพร่ศาสนาให้ถึงประเทศจีนให้ได้ การตายง่ายกว่า การมีชีวิตอยู่ แต่เพื่อเผยแพร่พระธรรมและรักษาปณิธานอันประเสริฐอาตมาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ให้ได้”
|
|
主意已定他劝慰了公主几句,然后让门外监视着的士兵带他去见吕光。他打断吕光无耻而又无知的问话,简短地说:“为了不让无辜者遭杀戮,我只好破戒了”。吕光顿时高兴起来,庆贺计谋得逞。
เมื่อตกลงใจแน่วแน่แล้ว ก็เข้พูดปลอบโยนองค์หญิงครู่หนึ่ง แล้วให้ทหารที่เฝ้าสังเกตการณ์พาไปพบแม่ทัพหลวี่กวาง ท่านกุมารชีพตัดบทคำถามที่ไร้ยางอายและด้วยการศึกษาของแม่ทัพหลวี่กวาง พูดเพียงสั้นๆกับเขาว่า “เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ถูกสังหาร อาตมาจำต้องละเมิดกฎวินัย” แม่ทัพหลวี่กวาง ดีอกดีใจขึ้นมาทันทีที่กลอุบายของตนสัมฤทธิ์ผล
|
|
鸠摩罗什被迫娶妻,与善良的公主同住一室,彼此相敬如宾,如同净侣。罗什仍潜心于佛典研究,每天他都为公主逐段逐句地讲解经文公主不久便通晓了许多佛典。后来他们经常在一起讨论经文,辨识教义,这成了他们“夫妇”生活的全部内容。 ท่านกุมารชีพแต่งงานเพราะถูกบังคับ ได้พำนักอยู่กับองค์หญิงจั่งผู้มีเมตตาจิตทั้งสองมีความเคารพแรงใจซึ่งกัน และกัน เหมือนคู่ชีวิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ท่านกุมารชีพสงบสติสำรวมอารมณ์และยังคงศึกษาค้นคว้าตำรับตำราพุทธศาสนา ทุกวันท่านจะอธิบายความหมายของพระธรรมให้องค์หญิงฟังเป็นวรรคเป็นตอน ไม่นานก็ทำให้องค์หญิงมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมหลากหลาย ต่อมาภายหลง ทั้งสองท่านมักจะและเปลี่ยนสนทนาธรรมแยกแยะความหมายของคำสอนเหล่านั้น ประพฤติตนตั้งมั่นอยู่ในธรรมโดยบริสุทธิ์ใจ เรื่องเหล่านี้คือสภาพ “ชีวิตคู่” ของท่านทั้งสอง
|
|
不久,吕光便率领大军,携带鸠摩罗什回长安。吕光逼得鸠摩罗什破了戒,还不满足,行军途中又想出种种花样羞辱罗什。一天,他命士兵牵来一匹列性野马,令 罗什骑上去。罗什明知吕光为难他,仍平静地,好不容易才坐上马背。马又是踢腿,又是剧烈地腾挪身子,不一会儿便把罗什从马背上摔下来。吕光得意地大笑。罗 什从地上爬起,仍是一副安详的样子。ต่อ มาไม่นาน แม่ทัพหลวี่กวางก็นำทัพพร้อมท่านกุมารชีพกลับนครฉางอาน เขาบีบคั้นจนท่านกุมารชีพต้องละเมิดศีลไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างการเดินทัพกลับ ยังคิดกลอุบายต่างๆมากลั่นแกล้งให้ท่านกุมารชีพอับอาย วันหนึ่ง เขาเรียกทหารให้เอาม้าพยศมาตัวหนึ่งแล้วบังคับให้ท่านกุมารชีพขึ้นม้า ท่านกุมารชีพทราบดีว่าถูกกลั่นแกล้งอีก แต่ยังคงสงบอารมณ์ใช้ความพยายามไม่น้อยกว่าจะขี่ม้าตัวนี้ได้ ม้าทั้งเตะเท้าและวิ่งกระโจนอย่างรุนแรงไม่ทันไรก็เหวี่ยงสะบัดจนท่านกุมาร ชีพพลัดตกจากหลังม้า แม่ทัพหลวี่กวางหัวเราะเสียงดังอย่างสมอารมณ์ ส่วนท่านกุมารชีพเมื่อลุกขึ้นจากพื้นได้ก็ยังคงมีอารมณ์ที่สงบนิ่ง
|
|
吕光说:“既然你无法驾驭马,那就骑牛吧。”他一挥手,士兵牵来一头蛮牛,瞪着一双凶狠的眼睛,两只角又长又尖,罗什仍然一句话都不说,勇敢地骑上牛 背。牛蹄踢得尘土飞扬,罗什奋力抓住缰绳,但还是被摔在地上。罗什尽管被折腾得衣衫凌乱,尘土满面,却仍心定神安,豪无愤怒和惊慌之色。เมื่อ แม่ทัพหลวี่กวางบอกว่า “ในเมื่อท่านไม่สามารถขี่ม้า งั้นก็ขี่ควายเถอะ” แม่ทัพหลวี่กวางโบกมือให้ทหารนำควายป่ามาตัวหนึ่ง ดวงตาทั้งคู่ของควายป่าจ้องมาอย่างดุดัน เขาทั้งคู่ของมันทั้งยาวและแหลม ท่านกุมารชีพขึ้นขี่บนตัวควายอย่างอาจหาญ กีบควายก็ตะกุยพื้นจนฝุ่นทรายสะบัดฟุ้ง ท่านกุมารชีพพยายามขับเคี่ยวกับมัน ออกแรงดึงเชือกคุมบังเหียนไว้ แต่ก็ยังถูกเหวี่ยงตกลงมากองกับพื้น แม้ท่านกุมารชีพจะถูกสะบัดเหวี่ยงจนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนฉีกขาด ฝุ่นละอองเต็มหน้า ท่านก็ยังมีจิตตั้งมั่นสมาธิมั่นคง ไม่มีความโกรธเคือง หรือตกใจแต่อย่างไร
|
|
日久,吕光自觉惭愧,心想:“他如此宽容,我岂非太过分了?”他不久再捉弄罗什。这一天傍晚,部队行进到一座山脚下,吕光命令安营扎寨将士们都很疲劳 了,很快安顿下来,准备睡个好觉。罗什察看云层,恐怕夜里要下大雨;又见周围都是悬崖峭壁,如若发生山洪,后果不堪设想。他忙把情况告诉吕光,建议部队转 移,但吕光不信。 นานวันเข้า แม่ทัพหลวี่กวางรู้ลึกระอายใจขึ้น ในใจคิดว่า “ท่านกุมารชีพมีใจกว้างไม่ถือโทษเช่นนี้ ข้าพเจ้าทำเกินเลยไปแล้วมิใช่หรือ” จากนั้นเขาจึงไม่กลั่นแกล้งอะไรท่านกุมารชีพอีก เย็นวันหนึ่ง กองทหารเดินทัพมาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง แม่ทัพหลวี่กวางสั่งให้ตั้งค่ายปักกระโจม ณ ที่นั้น เหล่าทหารทุกคนเหนื่อยล้ากับการเดินทางอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่นานก็ตั้งค่ายเสร็จ คิดจะหลับพักให้สบายสักที ท่านกุมารชีพสังเกตดูท้องฟ้า ตระหนักว่าตกค่ำอาจจะมีลมฝนอย่างหนัก และรอบด้านก็เป็นเหวลึก หน้าผาสูงชัน หากเกิดน้ำไหลหลากลงมาจากภูเขา ผลเสียที่ตามมาอาจเกินคาด ท่านกุมารชีพรีบน้ำเรื่องนี้แจ้งแก่แม่ทัพหลวี่กวาง เสนอให้กองทหารโยกย้ายที่ใหม่ แต่แม่ทัพหลวี่กวางไม่ยอมเชื่อ
|
|
罗什只得回到帐篷中,但不敢睡觉。果然半夜时分,点闪雷鸣,狂风呼啸,大雨哗哗地下。罗什赶紧走出帐篷,呼叫:“山洪快来啦,赶快躲避呀!”将士们正沉睡在梦中,遇此突变,豪无准备,山洪很快倾泻而下,人声、马声、乱石飞掷声、风雨声响成一片,整个营地乱成一团。 เมื่อท่านกุมารชีพกลับเข้ากระโจมที่พัก ก็ไม่กล้านอนหลับ และเป็นจริงดังที่ท่านว่าพอตกเที่ยงคืน ฟ้าแลบคะนอง เสียงลมพายุพัดแรง ฝนกระหน่ำทลงมาอย่างหนัก ท่านกุมารชีพรีบสิ่งออกจากกระโจมตะโกนบอกว่า “น้ำจะไหลหลากมาแล้ว รีบหลบหนี” เหล่าทหารกำลังนอนหลับสนิท เจอเหตุการณ์กะทันหันไม่มีเวลาเตรียมการ น้ำจากภูเขาไกลหลากลงมาอย่างรวดเร็ว เสียงป่าวตะโกนของผู้คน เสียงแผดร้องของม้า เสียงหินปะทะปลิวว่อนผสานเสียงลมฝนที่โหมซัด ค่ายทหารปั่นป่วนโกลาหลไปหมด
|
|
积水很快便到了齐腰深。罗什边叫边把醉醺醺地昏睡着的吕光从营帐中拉出来,扶着他费力地爬上山头。洪水越来越大,扎营的山坳里,积水盈丈。洪水推去后, 吕光惊魂未定,发现有四、五千士兵来不及撤出,被淹死或被冲走。他这才从心里相信了罗什,说:“我真信服你了!”罗什却只是平淡地一笑。 น้ำที่ไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็วนั้นท่วมสูงถึงเอว ท่านกุมารชีพทั้งร้องเรียกทั้งลากดึงเอาตัวแม่ทัพหลวี่กวางที่เมาหลับใหลออก จากกระโจม ช่วยประคับประคองอย่างเต็มแรง จึงพาร่างที่เมามายนั้นขึ้นบนภูเขาได้ น้ำยิ่งหลากแรง ค่ายที่ตั้งอยู่ที่ลุ่มเชิงเขาน้ำขังเป็น 10 ฟุต หลังจากน้ำลดแม่ทัพหลวี่กวางยังไม่ตื่นก็ปรากฏว่าทหาร 4-5 พันคนถอยหนีออกมาไม่ทันจมน้ำตายไปบ้างหรือถูกน้ำพัดหายไปบ้าง จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้แม่ทัพหลวี่กวางยอมสยบเชื่อถือท่านกุมารชีพด้วยใจจริง และบอกว่า “ข้าพเจ้าศรัทธาเลื่อมใสท่านจริงๆ ท่านกุมารชีพเพียงแต่อมยิ้มเล็กน้อย ไม่พูดอะไร
|
|
十多天后,正在行军中,有军士报告吕光,淝水之战失败,苻坚被杀,姚苌已率大军进攻长安。吕光怎么能甘愿对姚苌俯首称臣呢?前秦崩溃,何去何从?他打算 就地称王,就与鸠摩罗什商量。罗什仔细分析了形势,认为不妥,他建议吕光继续东进,在途中寻找福地,吕光于是挥军东进。 ผ่านไปสิบกว่าวัน ขณะที่กำลังเดินทัพอยู่ระหว่างทาง ก็มีทหารรายงานว่าสงครามที่เฝ่ยสุ่ยปราชัย กษัตริย์ฝูเจียนถูกปลงพระชนม์ เอี๋ยวฉังยกทัพใหญ่บุกยึดนคร ฉางอานคนอย่างแม่ทัยหลวี่กวางหรือจะยอมก้ม ศีรษะเป็นบ่าวให้กับเอี๋ยวฉัง รัชสมัยต้นฉินก็แตกสลายไปแล้วจะไปแห่งหนตำบลดดี เมื่อใคร่ครวญดูแล้วก็คิดจะยึดสถานที่นี้สถาปนาตั้งตนเป็นใหญ่ จึงปรึกษาเรื่องนี้กับท่านกุมารชีพ ท่านวิเคราะห์สภาพแวดล้อมอย่างละเอียดคิดว่าไม่เหมาะสม จึงแนะนำให้เดินทัพขึ้นไปทางทิศตะวันออก แสวงหาสถานที่มงคลที่มีบุญวาสนาต่อกัน แม่ทัพหลวี่กวางจึงบัญชาให้ทหารมุ่งเดินไปทางตะวันออกตามที่ท่านกุมารชีพแนะนำ
|
|
大军将要到达凉州时,罗什对吕光说:“凉州东接中原,西连西域,是东汉以来东西要道,所辖墩煌、酒泉、张掖、姑*等都是有名的重要城市。这是一个福地,将军在此立身,可图五霸之业。”吕光于是以凉州为界,自立为王,改元太安。 เมื่อทัพใหญ่เคลื่อนมาถึงเมืองเหลี่ยงโจว ท่านกุมารชีพพูดกับแม่ทัพหลวี่กวางว่า “ทางตะวันออกของเมืองเหลี่ยงโจวติดกับแผ่นดินใหญ่จีน ทิศตะวันตกติดกับแดนประจิม ตั้งแต่รัชสมัยตงฮั่นมานี้ เมืองเหลียงโจวเป็นเมืองคมนาคมที่สำคัญ รวมถึงตุนหวาง จิ่วเฉวียน จังเอี้ย และกูจั้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นเมืองสำคัญที่มีชื่อเสียงมาตลอด สถานที่แห่งนี้เป็นมงคลภูมิหากแม่ทัพเริ่มตั้งหลักที่นี่จะสามารถสัมฤทธิ์ การอันยิ่งใหญ่ได้” ดังนั้น แม่ทัพหลวี่กวางจึงยึดเมืองเหลียงโจวนี้เป็นชัยภูมิตั้งตัวเป็นกษัตริย์ เปลี่ยนนามแผ่นดินเป็น ไท่อัน”
|
|
第二年正月,姑*上空狂风骤起,乌云朵朵。罗什察云观日,仔细分辨飓风起始之处,只见飞沙走石,枯叶凌空,料定是不祥之兆。他将自己的看法告诉吕光。 ประมาณต้นเดือนของปีที่สอง ที่เมืองกูจั้ง วันหนึ่งท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆคลุ้มเกิดลมพายุรุนแรงกะทันหัน ท่านกุมารชีพสังเกตดูพระอาทิตย์ วิเคราะห์อย่างละเอียดถึงจุดที่เกิดลมพายุ ทรายและหินตลบคลุ้มไปทั่ว ใบไม้แห้งปลิวว่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า เป็นนิมิตบอกถึงลางร้ายอย่างแน่นอน ดังนั้น ท่านกุมารชีพจึงบอกความคิดเห็นนี้แก่กษัตริย์หลวี่กวางให้ทรงทราบ
|
|
吕光吃了一惊。他心里清楚,他这个王位并没有坐稳,他的实力和威望不足以服众,他担心有人谋反。罗什分析到:“大王不必着急。依我看,此次谋反是不会成功的,只要加以防范,很快便可平息。” กษัตริย์หลวีกวางตกพระทัยมาก ทรงตระหนักว่าราชบัลลังก์ของพระองค์นั้นไม่มั่นคงเสียแล้ว บุญญาธิการและชื่อเสียงยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เหล่าทหารอ่อนน้อมยอมเชื่อ ฟังและวิตกว่าจะมีผู้คิดกบฏ ท่านกุมารชีพชี้แจงว่า “พระองค์ท่านไม่ต้องกังวล ตามที่อาตมาคาดคิดการกบฏครั้งนี้ไม่สำเร็จ เพียงแต่ให้ระวังป้องกัน ทุกอย่างก็จะสงบเรียบร้อยเอง”
|

|
果然,几天之后,吕光的部下梁谦、彭晁率部叛变,但由于吕光有所防范和准备,及时派兵镇压,没费多大力气就将叛乱平定了,并活捉了判军将领。这一事件后,吕光对罗什格外尊重和信任,罗什被迫留在凉州,当了后凉政权的国师。จริง ดังว่า ไม่กี่วันจากนั้น เหลียงบเซียนและเผิงเฉา ซึ่งเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของกษัตริย์หลวี่กวางได้ก่อการกบฏ แต่เพราะกษัตริย์หลวี่กวางได้เตรียมป้องกันอยู่แล้ว จึงจัดส่งทหารไปปราบให้สงบได้ทันเวลา โดยไม่ต้องใข้กำลังมากก็กำราบลงได้ และกบฏก็ถูกจับเป็นด้วย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ กษัตริย์หลวีกวางเคารพเชื่อถือท่านกุมารชีพมากขึ้น ได้บังคับให้ท่านพำนักอยู่เมืองเหลียงโจวและแต่งตั้งให้เป็นราชครูในรัชสมัย ปลายเหลียง
|
|
龙飞二年(379年),据守在张掖、临松、卢水一带的沮渠男成和他的堂弟沮渠蒙逊等人起来造反,他们把建康太守段业推为盟主,以壮声势。吕光派儿子秦州 刺史太原公吕纂率领五万大军前去讨伐。原以为段业一伙不过是乌合之众,吕纂战功显赫,定能得胜,却不料劳保纂全军覆没,只带了几个小卒狼狈而归。吕光一气 之下卧病不起,传位太子吕绍,不久便死了。หลง เฟยปีที่สอง (ปีค.ศ.397) ทหารชื่อจวีฉวีหนันเฉิง กับญาติพี่น้องชื่อจวีฉวีเหมิงชวิ่น และพรรคพวกที่ปกครองเมืองจังเอี้ย หลิงซงและหลูสุ่ย ได้ร่วมกันก่อกบฏขึ้น ทั้งหมดเห็นพ้องกันยกให้ต้วนเอี้ย ผู้ว่าราชการจังหวัดที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นประมุขเพื่อเสริมสร้างฐานอำนาจ กษัตริย์หลวี่กวางมีรับสั่งให้พระโอรสหลวี่จ่วนซึ่งเป็นข้าหลวงประจำจังหวัด ของฉินโจวยกทัพห้าหมื่นไปปราบปราม โดยคิดว่าพรรคพวกของผู้ว่าราชการจังหวัดต้วนเอี้ยนั้น เป็นเพียงนกน้อยรวมฝูงกันเท่านั้น ส่วนหลวี่จ่วนซึ่งมีความเก่งกล้าเลื่องลือในการรบ ต้องได้รับชัยชนะเป็นแน่ แต่ปรากฏว่าทหารทั้งกองทัพของหลวี่จ่วนปราชัยยับเยิน เหลือทหารกลับมาไม่กี่คน กษัตริย์หลวี่กวางทั้งกริ้วและเสียพระทัยอย่างยิ่งจนล้มป่วย จึงทรงแต่งตั้งให้พระโอรสหลวี่เซ่าขึ้นเป็นรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ ต่อมาไม่นานกษัตริย์หลวี่กวางก็สิ้นพระชนม์
|
|
吕绍继位后,在吕纂的逼迫下自杀。绿纂自立为王,改年号为咸宁。绿纂称王之后,包括他的弟弟的几个儿子,个个心里不服,虎视耽耽,寻机下手。吕纂却浑然不知。咸宁三年(401年),吕纂被堂兄吕超杀死。吕超拥护自己的哥哥吕隆做了后凉国的新国王。 หลังจากที่พระโอรสหลวี่เซ่าขึ้นครองราชย์ไม่นาน ก็ถูกหลวี่จ่วนบีบคั้นจนทำอัตวินิบาตกรรม แล้วหลวี่จ่วนก็สถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์ เปลี่ยนรัชสมัยเป็น เสียนหนิง เมื่อขึ้นครองราชย์แล้วกลับไม่เหลียวแลใส่ใจราชการบ้านเมือง ใช่จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หมกหมุ่นแต่สุรานารี โอรสหลายองค์ของกษัตริย์หลวี่กวาง รวมทั้งอีกหลายองค์ของกษัตริย์หลวี่เซ่า ต่างก็ไม่มีใจรักภักดี ทุกองค์ต่างเฝ้ามองเสมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อคอยจ้องหาโอกาสกันตลอดเวลา แต่กษัตริย์หลวี่จ่วนไม่ทรงทราบเรื่องราวแม้แต่น้อย เสียนหนิงปีที่ 3 กษัตริย์หลวี่จ่วนถูกลูกพี่ลูกน้องนามว่าหลวี่เชาปลงพระชนม์ หลวี่เชาสนับสนุนพี่ชายของตนชื่อหลวี่หลง ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ ในรัชสมัยปลายเหลียง
|
|
虽然从吕光到吕隆,都给予罗什相当的信任,但他们都不信佛教,不支持罗什的译经弘法活动,罗什除了每天读经之外,就把大量时间用在学习汉文上,为将来在中国弘法做准备。他学会了一口流利的汉话,对汉文也能熟练掌握运用自如。 ถึงแม้ว่ากษัตริย์หลวี่กวางจนถึงกษัตริย์หลวี่หลง จะให้ความเคารพนับถือท่านกุมารชีพแต่ทุกพระองค์ไม่ทรงมีศรัทธาต่อพุทธศาสนา ไม่สนับสนุนการเผยแพร่พระธรรมหรือส่งเสริมการบำเพ็ญธรรม ท่านกุมารชีพพำนักอยู่ในเมืองเหลียงโจวเป็นเวลา 16 ปีไม่มีโอกาสเผยแพร่พระธรรมตามเจตจำนงเลย แม้จะอยู่ในสภาพการณ์เช่นนี้ทุกๆวัน ท่านกุมารชีพจะอ่านตำรับตำราและใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาภาษาจีน เพื่อเตรียมพื้นฐานในการเผยแพร่พระธรรมสู่ประเทศจีนในอนาคต ท่านศึกษาภาษาจีนจนพูดคุยสนทนาได้ช่ำชองแม้อักษรจีนก็สามารถใช้ได้อย่าง คล่องแคล่วดุจภาษาแม่
|
|
姚苌知道苻坚攻打龟兹国,为的就是鸠摩罗什。他攻下长安后,曾派使者去凉州请罗什去长安。可是罗什足智多谋,对如此大智慧的人,吕光怎会拱手让人而对自己不利呢?姚苌去世后,姚兴即位,姚兴又派使者去凉州交涉,也碰了钉子,但姚兴并未就此罢休,他在等待时机。กล่าว ถึงกษัตริย์เอี๋ยวฉัง ทรงทราบข่าวที่กษัตริย์ฝูเจียนยกทัพตีแคว้นกุฉาเพื่อประสงค์ท่านกุมารชีพ ยามนี้พระองค์ได้ครองนครฉางอานแล้ว เคยมีรับสั่งให้ไปนิมนต์ท่านกุมารชีพมานครฉางอาน แต่อัจฉริยะบุคคลไหวพริบดีและมีปัญญาความสามารถเยี่ยงกุมารชีพนั้นมีหรือที่ กษัตริย์หลวี่กวางจะยอมยกให้ ซึ่จะทำให้ตนเสียเปรียบได้อย่างไร เมื่อกษัตริย์ เมื่อกษัตริย์เอี๋ยวฉังสิ้นพระชนม์ กษัตริย์เอี๋ยวซิงขึ้นครองราชย์แทนก็ส่งทูตไปเหลียงโจว เพื่อเจรจานิมนต์ท่านกุมารชีพอีกก็ถูกปฏิเสธ แต่กษัตริย์เอี๋ยวซิงไม่ทรงเลิกล้มความพยายาม ทรงรอคอยโอกาสที่จะอำนายในภายหน้า
|
|
后秦弘始三年(401年)三月,庙庭中生出一棵连理树,逍遥园里的葱也变成了香草,大家都联想到会有高僧鸠摩罗什到达,纷纷上表启奏,要求发兵攻打后凉,迎接鸠摩罗什。 ในรัชสมัยปลายฉิน ปี ค.ศ.401 เดือน 3 ที่บริเวณศาลบูชาในพระราชตำหนักเกิดมีต้นไม้ที่มีลำต้น 2 ลำงอกมาบรรจบกันเป็นต้นเดียว และต้นหอมในอุทยานเซียวเอี๋ยว ก็กลายเป็นหญ้าหอม ทำให้ทุกคนคิดโยงไปว่าจะมีการมาเยือนของท่านกุมารชีพธรรมาจารย์ผู้มีชื่อ เสียงโด่งดัง จึงทำหนังสือกราบบังคมทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงขอให้ยกทัพโจมตีปกลายเหลียงเพื่อ อัญเชิญท่านกุมารชีพมาสู่เมืองของตน
|
|
五月姚兴派遣陇西公姚硕德西伐凉州。后凉因王室连年自相残杀,臣下不断谋反,已经没有实力抵挡,几仗下来便被打得大败。吕隆走投无路,只得上表请降。他亲自陪同姚硕德与鸠摩罗什相见。不久,姚硕德即偕同鸠摩罗什返回长安。 เมื่อถึงเดือน 5 กษัตริย์เอี๋ยวซิงมีกระแสรับสั่งให้หลงซีกงเอี๋ยวซั่วเต๋อยกทัพไปโจมตีเหลี ยงโจวทางทิศตะวันตก เหตุการณ์ในรัชสมัยปลายเหลียงนั้น เชื้อพระวงศ์ในพระราชสำนักมีการเข่นฆ่าสังหารกันตลอดมาไม่หยุดหย่อน ขุนนางก็ก่อกบฏอยู่บ่อยครั้งทำให้ไม่มีกำลังพอจะสู้รบป้องกันข้าศึก เพียงรบกันไม่ทันไรก็พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง กษัตริย์หลงวี่หลงหมดทางสู้ ทรงทำหนังสือยอมสวามิภักดิ์ พระองค์เสด็จมาพร้อมท่านเอี๋ยวซั่ว เข้าพบท่านกุมารชีพ ต่อมาไม่นาน ท่านเอี๋ยวชั่วเต๋อก็นำทัพกลับนครฉางอานโดยมีท่านกุมารชีพมาด้วย
|
|
十二月二十日,鸠摩罗什到达长安。姚兴亲率文武百官出城迎接。他为鸠摩罗什接风洗尘,真诚热情地说:“大师降临,真是长安百姓之福。”鸠摩罗什在与姚兴的谈论中,发现他读过不少经书,表示赞赏。
วันที่ 20 เดือน 12ท่านกุมารชีพเดินทางถึงนครฉางอาน กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงนำข้าราชการทั้งบุ๋นและบู๊ ออกจากเมืองมาต้อนรับการมาของท่านกุมารชีพด้วยพระองค์เองรับสั่งด้วยคามจริง ใจว่า “พระเถระมาเยือนถึงที่นี่ เป็นบุญวาสนาของบพสกนิกรชาวนาครฉางอาน” จากการสนทนาธรรมระหว่างท่านกุมารชีพกับกษัตริย์เอี๋ยวซิง ท่านกุมารชีพพบว่า กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงมีความรู้ความเข้าใจคัมภีร์ทางพุทธศาสนาไม่น้อยทีเดียว จึงได้แสดงความสรรเสริญชมเชยพระองค์
|
|
姚兴尊鸠摩罗什为国师,将他安置在逍遥园逍遥宫居住。姚兴是十六国时期有为的君主,他目光远大,注意修学,在京城聚集了大量的儒生和佛教信徒。他深知 倡导佛教将有利于稳固他的统治,十分信任的对罗什说:“从今以后,长安的百姓就由大师多加教化了。”กษัตริย์ เอี๋ยวซิงทรงยกย่องท่านกุมารชีพเป็นราชครู นิมนต์ให้ท่านพำนักอยู่ในอุทยานเซียวเอี๋ยวในราชวังเซียวเอี๋ยว กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาของช่วงสมัยสิบหกแคว้น ทรงมีสายพระเนตรยาวไกลและสนพระทัยเกี่ยวกับการศึกษา ทำให้เมืองหลวงกลายเป็นศูนย์รวมที่นักปราชญ์และพุทธศาสนิกชนทั้งหลายมาพบปะ กัน พระองค์ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมพุทธศาสนา สามารถใช้เป็นกุศโลบายชักนำที่มีประโยชน์ต่อความมั่นคงในการปกครองประเทศ พระองค์ทรงมีความเชื่อมั่นต่อท่านกุมารชีพเป็นอย่างยิ่งและตรัสว่า “นับแต่นี้ไป ขอให้พระเถระช่วยเป็นผู้สั่งสอนชี้แนะพสกนิกรของนครฉางอาน”
|
|
鸠摩罗什开始思考如何有效地将大乘佛法在中国广泛传播的问题。他发现以往的汉译佛经不足之处甚多 ,对此,有必要重译:而其他许多重要的佛经更有待于翻译成汉文后讲解。姚兴政事处理完以后,常来逍遥园与罗什谈佛法,精研佛经,讲到玄妙处,便发出赞叹。 一次,罗什将自己想要系统地翻译佛经的宏愿告诉姚兴,姚兴当即赞同:“朕请你从现在起就开始这项工作吧。” ท่านกุมารชีพคิดหาวิธีว่าทำอย่างไร จึงจะถ่ายทอดนิกายมหายานให้แผ่ไพศาลในประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ท่านพบว่าคัมภีร์ที่แปลเป็นภาษาจีน ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกต้องเท่าที่ควรจำเป็นต้องแปลใหม่ให้ถูกต้อง และยังมีคัมภีร์สำคัญอีกมากมายที่ต้องแปลเป็นภาษาจีนให้เสร็จสิ้นก่อนจะ เทศนาในภายหลัง กษัตริย์เอี๋ยวซิงเมื่อเสร็จจากราชกิจแล้วมักจะเสด็จมาอุทยานเซียวเอี๋ยน สนทนาธรรมกับท่านกุมารชีพเพื่อศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์ต่างๆบางครั้งพูดเลยไป ถึงเรื่องอัศจรรย์ลี้ลับ ก็เห็นพ้องกันว่าเป็นเช่นนั้นจริง วันหนึ่งท่านกุมารชีพกราบทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงถึงปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะจัด แปลคัมภีร์ให้เป็นระบบ พระองค์ทรงเห็นชอบด้วยทันทีและกล่าวว่า “นับจากวันนี้ไป เชิญท่านเริ่มงานชิ้นนี้ได้เลย”
|
|
在姚兴的大力支持下,一场中国历史上首次大规模的译经活动开始了。天下博学认识纷至沓来,长安成为当时长江以北佛教人才的中心。 ภายใต้พระอุปถัมภ์และการสนับสนุนเต็มที่ของกษัตริย์เอี๋ยวซิง กิจกรรมแปลคัมภีร์ก็เริ่มจัดทำเป็นระบบขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน บรรดานักปราชญ์ผู้ทรงความรู้และมีชื่อเสียง ต่างหลั่งไหลมาพบปะกันบ่อยครั้ง นครฉางอานในเวลานั้นจึงกลายเป็นศูนย์รวมของปัญญาชนทางพุทธศาสนาทางดินแดน ฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซี
|
|
姚兴见如此众多的精英会聚长安,非常高兴。他召集学问卓著的僧俗五百多人协助罗什工作。逍遥园中的噌玄堂就成了译经场所。 กษัตรยิ์เอี๋ยวซิงมีความโสมนัสปลาบปลื้มยิ่งนัก ที่นครฉางอานเป็นศูนย์รวมของผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ยังได้รับสั่งให้นิมนต์บรรพชิตและเชื้อเชิญฆราวาสทั่วไปที่มีความสามารถร่วม ห้าร้อยคนมาช่วยเหลืองานของท่านกุมารชีพ ทำให้ห้องเฉินเสวียนถังในอุทยานเซียวเอี๋ยวกลายเป็นสถานที่ ใช้ในการแปลคัมภีร์โดยเฉพาะ
|
|
译经时,鸠摩罗什拿着梵文本用汉文讲解,与会大众对着旧译本校对,凡新译与旧译不同的地方,就提出来讨论。大家发现旧译本远不如新译义理圆通,而且新译文字简洁流畅,所以对罗什非常信服赞叹。鸠摩罗什白天在澄玄堂讲经,晚上则校对弟子们整理好的经文,常常通宵达旦。ระหว่าง ที่แปลคัมภีร์อยู่นั้น ท่านกุมารชีพจะใช้คัมภีร์ต้นฉบับสันสกฤตและอธิบายเป็นภาษาจีน เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของคัมภีร์ฉบับเดิมกับผู้ร่วมงานไม่ว่า คัมภีร์ที่แปลใหม่กับคัมภีร์ฉบับเดิมมีความผิดแผกกันที่ใด ก็จะนำมาหารือกันผลปรากฏว่าความหมายของคัมภีร์ฉบับเดิม ไม่ทัดเทียมกับคัมภีร์แปลใหม่ที่มีความหมายสมบูรณ์กว่า ภาษาที่ใช้ก็ง่ายๆ กระชับ เข้าใจง่าย ด้วยเหตุนี้ท่านกุมารชีพจึงได้รับความเคารพยกย่องในอัจฉริยภาพ กลางวันท่านกุมารชีพจะแสดงธรรมที่ห้องเฉิงเสวียนถัง พอตกเย็นท่านก็จะตรวจสอบคัมภีร์ที่ลูกศิษย์ได้แก้ไขอีกครั้งตลอดคืนถึงรุ่ง สางอยู่เสมอ
|
|
译经之前,鸠摩罗什总要反复研究,仔细推敲,选择最准确恰当、优美简洁的词句。他非常注意发挥众人的智慧,如僧睿建议将《正法华经》中“天见人,人见 天”改译为“人天交接,两相见得”时,罗什就当即赞扬他:“你表达得很正确。”在鸠摩罗什的主持下,译经进行得既严谨又隆重,姚兴也曾亲临译场,躬与译 经。ก่อน ที่จะแปลคัมภีร์ ท่านกุมารชีพมักจะตรวจทานครั้งแล้วครั้งเล่า ชัดเกลาสำนวนอย่างละเอียด คัดเลือกถ้อยคำที่ถูกต้องเข้าใจง่ายและชัดเจนที่สุด ท่านเล็งเห็นถึงสติปัญญาความรู้ของผู้ร่วมงานทุกท่าน โดยให้แสดงความสามารถออกมาเต็มที่ เช่น พระเจิงยุ่ย เสนอประโยคของคัมภีร์ในสัทธรรมปุณฑริกสูตร (ฉบับแปลครั้งแรก) ว่า “ฟ้าเห็นคน คนเห็นฟ้า” ได้เปลี่ยนใหม่เป็น “คนและฟ้าเชื่อมร้อยได้เห็นกันและกัน” ก็ได้รับคำชมเชยจากท่านกุมารชีพในทันทีว่า”ท่านเปลได้ตรงความหมายจริงๆ” การเป็นประธานในการแปลคัมภีร์ของท่านกุมารชีพ ดำเนินไปเข้มข้นและยิ่งใหญ่ กษัตริย์เอี๋ยวซิงก็เคยเสด็จมายังสถานที่แห่งนี้และอุทิศพระองค์เข้าร่วมงาน แปลเช่นกัน
|

ลายมือของท่านกุมารชีพ ในการแปลคัมภีร์และพระสูตร
|
姚兴将学习佛经和在澄玄堂所听罗什将经的体会,写成一部《通三世论》,说明善恶因果的道理,要人们多多行善。写成之后,命人将书稿送到逍遥园请罗什过目。罗什读了《通三世论》,十分欢喜,立即上书赞美。กษัตริย์ เอี๋ยวซิงทรงศึกษาคัมภีร์ด้วยพระองค์เองอย่างลึกซึ้ง จากที่ได้ทรงฟังการแสดงธรรมของท่านกุมารชีพ ณ ห้องเติ้งเสวียนถัง จึงได้ทรงนิพนธ์หนังสือขึ้นเล่มหนึ่งชื่อ “การเชื่อมโยงทะลุกันได้ของสามชาติ” ทรงแจกแจงถึงคติธรรมของเหตุและผล ดีกับชั่วและปรารถนาให้สาธุชนกระทำแต่ความดีให้มาก เมื่อนิพนธ์เสร็จก็รับสั่งให้นำบทความนี้ไปยังอุทยานเซียวเอี๋ยนให้ท่าน กุมารชีพอ่านดูหลังจากอ่านเสร็จท่านกุมารชีพรู้สึกชื่นชมในพระปรีชาของ กษัตริย์เอี๋ยวซิง จึงได้กราบทูลสดุดีต่อพระองค์
|
|
鸠摩罗什的译经弘法活动,盛况空前。参译者不断增加,到翻译《法华经》时,竟有两千多人。而经常追随罗什的弟子有三千。人们把鸠摩罗什门下最优秀的弟子 誉为“什门四圣”、“八俊”、“十哲”等等,长安逍遥园则成了中国北方学术地位最高的佛学翻译和研究机构。当时,后秦内上自王公贵族,下至黎民百姓,无不 信佛,佛法昌盛到了极点。ภารกิจ ด้านการแปลคัมภีร์เผยแพร่ธรรมเช่นที่ท่านกุมารชีพกระทำนั้น หาเคยมีมาก่อนไม่ โดยเฉพาะผู้เข้าร่วมงานแปลคัมภีร์นับวันก็ยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้น ช่วงเวลาที่แปลคัมภีร์สัทธรรมปุณฑริกสูตรอยู่นั้น มีผู้เข้าร่วมแปลกว่าสองพันคน ส่วนลูกศิษย์ที่ติดตามท่านกุมารชีพก็ร่วมสามพันกว่าคน ผู้คนสดุดียกย่องศิษย์ที่โดดเด่นเป็นเลิศของท่านกุมารชีพเป็น “สี่อริยะแห่งเสอ” “แปดอัจฉริยะ” “สิบปรัชญาเมธี” ฯลฯ บัดนี้อุทยานเซียวเอี๋ยวของนครฉางอาน จึงเป็นแหล่งวิทยาการชั้นเลิศทางตอนเหนือของจีนในด้านการแปลพุทธศาสตร์ ในเวลานั้นเป็นรัชสมัยปลายฉิน ภายในพระราชวังนับแต่ราชนิกูลขุนนางผู้ใหญ่จนถึงทวยราษฎร์ล้วนนับถือพุทธ ศาสนา นับว่าพุทธศาสนาในยุคนั้นเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด
|
|
弟子们对鸠摩罗什无比崇敬,唯独不能明白老师为什么会有妻室。一次,译经结束时,一位弟子忍不住问道:“老师的学问,像大海一样深;老师的道德,像天一样高。弟子只是不明白,出家人理当辞俗避世,斩断六情,老师却为何娶有妻室,身处尘俗呢?” สานุศิษย์ ทั้งหลายล้วนเคารพท่านกุมารชีพมาก ว่าเป็นเลิศหาผู้ใดปาน แต่มีความกังขาเพียงเรื่องเดียวคือ เหตุใดอาจารย์จึงต้องมีครอบครัว ครั้งหนึ่งหลังเสร็จสิ้นการแปลคัมภีร์ศิษย์คนหนึ่งอดรนทนไม่ได้ จึงถามออกมาว่า”ความรู้ของอาจารย์ลึกล้ำดุจมหรรณพ ศีลธรรมจรรยาของอาจารย์กว้างใหญ่ไพศาลดุจห้วงนภา แต่ศิษย์ไม่เข้าใจว่าผู้ออกบวชจำต้องถอนตัวจากโลก หลีกเร้นโลกียวัตร ตัดขาดอารมณ์ทั้งปวง เหตุใดท่านยังมีภรรยาและใช้ชีวิตเยี่ยงปุถุชนทั่วไป”
|
|
鸠摩罗什原原本本地向弟子们叙述了娶妻的前因后果,弟子们这才明白了老师的苦楚。原来老师为了弘扬佛法,为了把大乘法传播到中国来,才不得不忍辱负重 啊!对于个别心存妄念之人,罗什则施展早年学的吞针术,将一碗缝衣针和水吞下,然后吸一口气,将吞下的针悉数由皮肤标出,说:“吞得针,娶得亲。”吓得那 些人目瞪口呆。从此无人敢放肆妄为。 ท่าน กุมารชีพจึงเล่าถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมดให้ศิษย์ทุกคนฟัง เหล่าศิษย์จึงเข้าใจถึงความระทมขมขื่นลึกๆของอาจารย์ เพื่อจะเผยแพร่พุทธธรรมให้กว้างไกลและมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดนิกายมหายานให้ ถึงประเทศจีน จึงจำใจต้องทนอัปยศเพื่อสานต่อภารกิจนี้ให้ลุล่วง สำหรับผู้ที่คิดในเชิงอกุศลนั้น ท่านกุมารชีพได้แสดงวิชาที่ร่ำเรียนมาเมื่อครั้งเยาว์วัยให้เห็นคือวิชากลืน เข็มเข้าท้อง โดยกลืนเข็มหนึ่งชามพร้อมดื่มน้ำตามลงด้วย เพียงอึดใจเดียวก็คายเข็มที่กลืนลงไปออกทางผิวหนัง เท่ากับจำนวนที่กลืนเข้าไป ท่านกุมารชีพพูดว่า “สามารถกลืนเข็มลงไปได้ ก็สามารถแต่งงานได้” ทำให้ทุกคนตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง นับจากนั้นก็ไม่มีใครกล่าววาจาจาบจ้วงลบหลู่ในทางอกุศลอีก
|
|
龙光地方有位学问很高、著作也很多的和尚慕名前来向鸠摩罗什请教。他和罗什谈论大乘的空论,认为空论太玄了。罗什告诉他,空论是大乘的精髓,他已准备有 系统地翻译。他告诉这位和尚,继《大品》后,他还将翻译《大智度论》、《中论》、《百论》、《十二门论》。和尚敬佩地点头。 ที่ ตำบลหลงกวางมีพระสงฆ์รูปหนึ่งมีความรู้สูง มีผลงานการประพันธ์มากมายได้เดินทางมาขอคำชี้แนะจากท่านกุมารชีพ เพราะได้ยินชื่อเสียงและเสื่อมใสศรัทธามานานทั้งสองท่านได้สนทนาถึงความหมาย ของคำว่า “ว่างเปล่า” ของนิกายมหายาน ต่างยอมรับว่า คำว่า “ว่างเปล่า” นั้นมีความหมายลึกซึ้งจริงๆ ท่านกุมารชีพบอกกับพระสงฆ์รูปนั้นว่า “ว่างเปล่า” นี้เป็นสารัตถะของนิกายมหายาน ท่านเองได้เตรียมจะจัดแปลอย่างเป็นระบบพร้อมทั้งบอกกับพระรูปนี้ว่า เมื่อแปลคัมภีร์ “มหาปรัชญาปารมิตาสูตร”สำเร็จแล้วก็จะแปล “มหาปรัชญาปารมิตาศาสตร์” “มาธยมิกศาสตร์” “ศตศาสตร์” “ทวาทศนิกายศาสตร์” พระสงฆ์รูปนั้นได้ฟังก็ได้แต่พยักหน้าด้วนความนบนอบ
|
|
庐山的慧远法师在学界及政界均有很大影响。他看了鸠摩罗什的汉译佛经,赞叹不已,主动写信向罗什问好,赞美他的渊博学识和崇高精神。罗什与他书信来往,互表敬意,以慧远为中心的教团也日渐趋向大乘佛教了。ธร รมจารย์ฮุ่ยเหวี่ยนแห่งหลูซาน มีชื่อเสียงกิตติศัพท์ในวงการศึกษาและวงการเมืองมาก ท่านธรรมาจารย์ได้อ่านบทแปลคัมภีร์เป็นภาษาจีนของท่านกุมารชีพแล้วรู้สึก ชื่นชมเป็นที่ยิ่ง จึงเขียนจดหมายมาไต่ถามทุกข์สุข สรรเสริญยกย่องท่านกุมารชีพที่มีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวาง มีจิตวิญญาณการทำงานสูงส่ง ท่านกุมารชีพและธรรมาจารย์ฮุ่ยเหวียนมีจดหมายติดต่อกัน จิตบังเกิดความปิติเลื่อมใสต่อกัน แม้กระทั่งศูนย์สอนศาสนาของธรรมาจารย์ฮุ่ยเหวียนก็ค่อยๆหันมาศรัทธาเลื่อมใส นิกายมหายานมากขึ้น
|
|
转眼间,鸠摩罗什来长安已经七八年了。那时,他正在全力翻译《法华经》。一天,他对几位最喜爱的弟子表露心境:“我想译完《法华经》后,回天竺去。”弟 子们盛情挽留他。姚兴得知后,也忙到逍遥园探视。罗什考虑到中国译经事业的重任一时还得由他来担当,遂打消了去天竺的念头。他对姚兴说:“请陛下放心,我 要在有生之年译出更多的佛典。” ชั่วพริบตาท่านกุมารชีพก็พำนักอยู่นครฉางอานเป็นเวลานานถึง 7-8 ปี ในระหว่างนั้นท่านทุ่มเทกายใจแปลสัทธรรมปุณฑริกสูตรอย่างเต็มที่ วันหนึ่งกุมารชีพได้สนทนากับศิษย์ใกล้ชิดถึงความในใจว่า “เมื่อเปลสัทธรรมปุณฑริกสูตรเสร็จแล้วจะกลับชมพูทวี” เหล่าสานุศิษย์เหนี่ยวรั้งไว้ด้วยไมตรีไม่อยากให้จากไป กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงทราบเรื่องนี้ก็รีบเสด็จมาเยี่ยมเยียนที่อุทยานเซียว เอี๋ยวเช่นกัน ท่านกุมารชีพคำนึงถึงเรื่องแปลคัมภีร์ที่เประเทศจีนในยามนั้นว่ายังเป็น ภารกิจสำคัญที่ท่านต้องกระทำ จึงละความคิดที่จะไปชมพูทวีปไว้ก่อน ท่านกราบทูลกษัตริย์เอี๋ยวซิงว่า “ขอให้พระองค์ทรงวางพระทัย ข้าพเจ้าจะพยายามแปลคัมภีร์ให้มากที่สุดตราบที่ยังมีชีวิตอยู่”
|
|
姚兴笃信佛教,一心要为鸠摩罗什留下法种。他邀请罗什进宫观赏荷花,先试探性地跟他讲法统继承的事,见罗什没有领会他的意思,便直截了当地说:“我的意 思是说,法师如能留下一二麟儿,法师的盖世学识便可源源不断,传诸久远。我现在要挑选十名歌伎服侍你。”鸠摩罗什急忙推辞。 กษัตริย์ เอี๋ยวซิงมีความความศรัทธาเชื่อมั่นต่อพุทธศาสนามาก มีพระประสงค์จะให้ท่านกุมารชีพสืบทอด ดังนั้นพระองค์จึงนิมนต์ท่านกุมารชีพเข้าวังมาชมดอกบัว เริ่มแรกพระองค์ทรงลองทาบทามดูก่อน จึงตรัสถือเรื่องทายาทสืบสกุลตามประเพณี ครั้นเห็นท่านกุมารชีพไม่เข้าใจความหมายที่พระองค์ทรงรับสั่ง จึงตรัสอย่างตรงไปตรงมาว่า “ความหมายของข้าพเจ้าก็คือ หากท่านกุมารชีพมีทายาทสัก 1-2 คน ความรู้อันเป็นเลิศในปฐพีของท่าน ก็จะมีคนสืบทอดต่อไปชั่วกาลนาน ข้าพเจ้าได้คัดเลือกนางกำนัลสิบคนไว้คอยปรนิบัติรับใช้ท่านแล้ว” ท่านกุมารชีพปฏิเสธทันที
|
|
姚兴不等鸠摩罗什把话说完,就将这件事决定下来。罗什被迫搬进新的府邸,又被迫接受了姚兴给他的十名歌伎。姚兴希望罗什传下优秀的后代,因此歌伎们个 个貌若天仙,善解人意,而又多才多艺。姚兴为他们提供丰富的食物和全部生活用品。 กษัตริย์เอี๋ยวซิงไม่ทรงรอให้ท่านกุมารชีพพูดจบ ก็ตัดสินพระทัยให้ดำเนินตามที่รับสั่ง ท่านกุมารชีพถูกบังคับให้ย้ายไปพำนักที่ตำหนักแห่งใหม่ พร้อมให้ยอมรับสิบนางกำนัลมาอยู่ด้วย กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงตั้งความปรารถนาให้ท่านกุมารชีพมีทายาทที่ดีเยี่ยม มีความรู้ ความสามารถหลากหลาย กษัตริย์เอี่ยวซิงทรางเป็นองค์อุปถัมภ์ พระราชทานข้าวปลาอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครบถ้วน
|
|
罗什王命难违。面对这十位聪明美丽的女子,他决定教化她们,让她们屏弃俗念,皈依佛法,以免尘事生活的烦恼。于是,他每天在逍遥园讲经之后,便回到府第,向十位女子讲述佛经故事,灌输佛教思想。慢慢地,这十位女子自动改服素装,修习佛法。 ท่าน กุมารชีพไม่อาจฝืนพระบัญชาของกษัตริย์เอี๋ยวซิงได้ เมื่อเผชิญหน้ากับนางกำนัลที่ฉลาดและงดงาม ท่านกุมารชีพจึงตัดสินใจที่จะกล่อมเกลานางทั้งหลายให้มีศีลธรรมยกระดับจินใจ จากปุถุชนผู้มีกิเลสหันมาบำเพ็ญพุทธธรรม เมื่อหลีกเลี่ยงซึ่วิตอันทุกข์ทรมานทางโลก ดังนั้นทุกวันเมื่อกลับจากแสดงธรรมที่อุทยานเซียวเอี๋ยวแล้ว ก็จะไปยังตำหนักแห่งใหม่ เล่านิทานและสาธกเรื่องราวต่างๆทางพุทธศาสนาให้นางกำนัลทั้งสิบฟัง เพื่อให้เกิดพุทธิปัญญา ต่อมาไม่นานนางทั้งสิบก็ได้เปลี่ยนแปลงตนเองโดยนุ่งห่มอาภรณ์เรียบๆไม่ฉูด ฉาด เรื่องฝึกฝนบำเพ็ญพุทธธรรมโดยสมัครใจ
|
|
有一天,罗什跟她们讲最初的比丘尼是如何产生的:佛陀的姨母见佛陀不收女弟子,三次拒绝她们的请求,便与同族中五百多女子毅然各自剃去头发,披起袈裟, 后来,阿难尊者一再为她们说情,佛陀才允许他们的请求,开放了女子加入僧团的先例。十名女子听了这个故事,非常感动。在罗什的感化和调教下,他们成为罗什 门下忠心耿耿的弟子。 อยู่ มาวันหนึ่ง ท่านกุมารชีพได้เล่าถึงความเป็นมาที่มีภิกษุณีเกิดขึ้นครั้งแรกในพุทธศาสนา กล่าวคือพระมาตุจฉาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกปฏิเสธจากพระองค์ถึงสามค รั้ง ไม่อนุญาตให้สตรีเข้าบรรพชาในพุทธศาสนา ดังนั้นนางพร้อมด้วยกลุ่มสตรีประมาณห้าร้อยกว่าคน จึงตัดสินใจปลงผม นุ่งห่มจีวร ต่อมาพระอานนท์ได้เข้าเจรจาขอร้องแทนนางทั้งหลาย จนได้รับการอนุโลมจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอนุญาตรับเข้าบรรพชา ครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มแห่งการรับสตรีให้เข้าบรรพชาในพุทธศาสนา นางกำนัลทั้งสิบได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้น รู้ลึกซาบซึ้งภายใต้การสั่งสอนอบรมของท่านกุมารชีพ ทุกคนได้เปลี่ยนความคิดเห็นเดิม กลายเป็นศิษย์ที่มีจิตใจชื่อสัตย์ของสำนักหลัวเสอ
|
|
鸠摩罗什已经译完了《法华经》,正在翻译《诚实论》。此时,他开始构思撰写《实相论》,要将几十年来研究佛学的心得融铸其中,传播后世,发扬光大,他把 《实相论》的撰写放在每天的译经工作之后,经过一年多的时间,方才写成;又经过两年的修改增删,才算定稿。此书应是鸠摩罗什一辈子研究佛学的结晶,惜已亡 佚不存。 เมื่อกุมารชีพได้แปลคัมภีร์สัทธรรมปุณฑริกสูตรเสร็จสิ้น และกำลังแปลคัมภีร์สัตยสิทธิศาสตร์อยู่นั้น ท่านก็คิดจะประพันธ์เรื่อง สัตยลักษณศาสตร์ โดยคิดที่จะเขียนบรรยายข้อคิดที่ผ่านมาตลอดหลายสิบปีในการศึกษาค้นคว้าพุทธ ธรรม เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้ ท่านกุมารชีพจะเขียนบทประพันธ์ สัตยลักษณศาสตร์นี้ หลังเสร็จจากงานแปลประจำวัน ได้ใช้เวลาในการประพันธ์ราวปีกว่าและใช้เวลาขัดเกลาอีก 2 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ หนังสือเล่มนี้ถือได้ว่าเป็นผลงานตลอดชีวิตเกี่ยวกับการค้นคว้าพุทธธรรมของ ท่านกุมารชีพ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่หนังเล่มนี้ได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย
|
|
罗什住入姚兴为他新造的宅第后,认为自己业障太重,每次译经前,都要与弟子一起诵念“南无阿弥陀佛”,并对大众说:“我虽身落尘俗,我所说的法却是正确的。就如污泥中生着清香美丽的莲花,希望各位只采莲花,不要取污泥。”可谓用心良苦。 หลัง จากท่านกุมารชีพเข้าพำนักอยู่ในตำหนักใหม่ที่กษัตริย์เอี๋ยวซิงทรงสร้างให้ ท่านถือว่าเป็นกรรมอันใหญ่หลวงของท่านที่กีดขวางหนทางบำเพ็ญเพียร ดังนั้นทุกๆครั้งก่อนที่จะเริ่มแปลคัมภีร์ ท่านก็จะสวดมนต์ “นโมอมิตาภพุทธ” พร้อมๆกับศิษย์เสมอแล้วก็ประกาศให้ทุกคนทราบว่า “แม้ตัวของอาตมาใช้ชีวิตอยู่ทางโลก แต่พระธรรมที่เทศนานั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้เสมือนดอกบัวอันงดงามหอมกรุ่น งอกงามท่ามกลางโคลนตมหวังให้ทุกท่านเพียงเด็ดดอกบัว อย่าได้แปดเปื้อนโคลนตมโสโครก” นับได้ว่าท่านใช้คำสอน ที่ให้กำลังใจและมีเจตนาให้ข้อคิดอันลึกซึ้ง
|
|
弘始十一年(1413年)八月十九日下午,鸠摩罗什正在校正《成实论》,突然感到心跳加快,身体不适。他用手紧按着胸口,坚持到看完最后一个字,才呼喊弟子。 รัชสมัยหงสื่อปี่ที่ 11 (ปี ค.ศ.413) เวลาบ่ายของวันที่ 19 เดือน 8 ขณะที่ท่านกุมารชีพกำลังตรวจสอบคัมภีร์สัตยสิทธิอยู่นั้น รู้สึกใจเต้นแรงผิดปกติ ร่างกายไม่สบายมาก ท่านเอามือกดทาบที่หน้าอกระงับความเจ็บปวด มีมานะอ่านตรวจทานคัมภีร์จนจบบทสุดท้ายจึงเรียกศิษย์เข้ามาช่วย
|

เจดีย์บรรจุอัฐิพระกุมารชีพ
|
弟子们忙奔了过来,把师父扶到床上。他们一刻不停地为师父念咒,祈求佛陀延长师父的寿命。谁知到了第二天,鸠摩罗什的病情更加严重,他知道自己的生命走到了尽头,忽然睁开眼睛,挣扎着坐起来,向大家告别。 ศิษย์ทุกคนรีบรุดเข้ามาอย่างเร่งด่วน พยุงท่านกุมารชีพขึ้นนอนบนเตียง ศิษย์ทุกคนไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่างอธิษฐานให้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดเมตตาช่วยชีวิตของอาจารย์ แต่เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น อาการเจ็บป่วยของท่านกุมารชีพกลับยิ่งรุนแรง ท่านกุมารชีพตระหนักดีว่าชีวิตของท่านได้มาถึงจุดสุดท้ายแล้ว ทันใดนั้นท่านก็ลืมตาขึ้นพยายามทรงตัวขึ้นมาเพื่อล่ำลาทุกคน
|
|
一位弟子忙上前扶住师父,让他靠在自己的身上。众弟子肃立在鸠摩罗什周围听着师父临终遗言。鸠摩罗什喘息着说:“罗什所译经纶,三百多卷,大部分是意译,保留了经纶的本意,希望将来可流传后世,发扬光大......。”ศิษย์ คนหนึ่งรีบเข้ามาประคองท่านอาจารย์กุมารชีพ แล้วให้เอนพิงบนตัวท่านสานุศิษย์ทั้งหลายยืนสงบเสงี่ยมข้างกายท่านอาจารย์ กุมารชีพ ฟังคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายที่ใกล้มอดดับของอาจารย์ ท่านกุมารชีพพูดด้วยเสียงหอบว่า “คัมภีร์สามร้อยกว่าเล่มที่ได้แปลไว้นั้นส่วนมากแปลตามความหมายเดิม เพื่อธำรงไว้ซึ่งเนื้อหาที่แท้จริงของบทคัมภีร์หวังว่าจะสามารถสืบทอดไปยัง อนุชนรุ่นหลัง มีโอกาสเผยแพร่ให้รุ่งเรืองไพศาล”
|
|
鸠摩罗什对弟子说了好些话,他的声音越来越微弱。他最后说:“罗什一生所译的经纶,如果没有错误的话,罗什火化之后,舌根不会烧焦烧烂!”弟子们含着眼泪,让鸠摩罗什躺下。在生命的最后时刻,鸠摩罗什的嘴唇还在微微颤动,似乎在喃喃地念着经文。 ท่าน กุมารชีพได้สนทนากับศิษย์ครู่หนึ่ง เสียงของท่านแผ่วลงทีละน้อย “พระคัมภีร์ที่แปลไว้ตลอดชีวิตของอาตมานั้น” มิได้มีข้อผิดพลาดอันใด หลังพิธีฌาปนกิจแล้วสิ้นของอาตมาจะไม่ถูกเผาไหม้เสื่อมสลาย”ศิษย์ทุกคนต่าง น้ำตาคลอ พยุงอาจารย์ให้เอนกายลง ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ริมฝีปากของท่านอาจารย์กุมารชีพยังคงสั่นเครือเล็กน้อย ราวกับว่าท่านยังพึมพำสวดมนต์อยู่
|
|
长公主与十位女弟子也满怀悲伤与崇敬,步向榻前,为鸠摩罗什助念佛号。鸠摩罗什在弟子们的哭泣和念佛声中,慢慢地合上了眼睛。他的面容是那样安详、宁静;他那样伟大的灵知觉性,正向不生不灭的涅?境界而去。องค์ หญิงจั่งและศิษย์หญิงทั้งสิบยืนอยู่หน้าเตียง ต่างช่วยกันอธิษฐานด้วยความเคารพและโศกเศร้าอาดูร ท่านกุมารชีพค่อยๆหลับตาลง ท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้และเสียงสวดมนต์ของศิษย์ทั้งหลาย ใบหน้าของท่านช่างสงบสุข โปร่งสบายอะไรเช่นนี้ จิตที่สูงส่งประเสริฐเลิศล้ำ กำลังมุ่งสู่นิพพานสถานอันอมตะไร้ซึ่งการเกิดและการดับสูญ
|
|
一代伟大的译经家鸠摩罗什与世长辞,终年七十岁。鸠摩罗什的逝世,出乎人们的意料之外,从他感到身体不适到圆寂,竟不到一昼夜!这都是因为他日夜不停地讲经译经,疲劳过度,积劳成疾所致呀!鸠摩罗什的遗体火化后,舌根却没有焦烂,就像活着时一样红润。ท่าน กุมารชีพ นักแปลผู้ยิ่งใหญ่ละสังขารจากโลกนี้ไปชั่วกาลนานในวัย 70 พรรษาการจากไปของท่านเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายไม่คาดคิด กล่าวคือ เริ่มแต่ท่านรู้สึกไม่สบายจนถึงมรณภาพกินเวลาเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้เนื่องเพราะท่านตรากตรำแสดงธรรมและแปลคัมภีร์ สั่งสมความเหน็ดเหนื่อยมากเกินไปจนแปรเป็นโรคภัยไข้เจ็บ สังขารของท่านหลังฌาปณกิจแล้ว ปรากฏว่าลิ้นของท่านยังเป็นสีแดงสดเหมือนขณะยังมีชีวิตอยู่ไม่ถูกเผาจนไหม้ เกรียมสูญสลายแต่อย่างใด
|
|
前来送行的弟子及长安百姓不计其数。大家见此,苦得更悲痛了。僧肇擦着满脸泪水,朗诵他流泪撰写的祭文《鸠摩罗什法师诔》。然后,弟子们小心地收起灵骨,恭迎回逍遥园。สานุศิษย์ และชาวเมืองฉางอานที่มาปลงศพในครั้งนี้มากมายเหลือคณานับ ทุกคนเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ยิ่งสลดใจมากขึ้น พระเจิงจ้าวน้ำตานองหน้าขณะอ่านบทความไว้อาลัยสดุดีต่ออาจารย์กุมารชีพ คือ “บทสดุดีความดีความชอบของท่านกุมารชีพ” เสร็จแล้วลูกศิษย์ทั้งหลายก็เก็บสรีระธาตุของท่านอย่างระมัดระวัง นำกลับไปยังอุทยานเซียวเอี๋ยวด้วยความเคารพ
|
|
鸠摩罗什在长安二十年,译出佛经七十四部三百八十四卷,其中重要的有《妙法莲华经》、《阿弥陀经》、《十住毗婆沙论》、《中论》、《百论》,《十二门 论》、《金刚般若波罗蜜经》、《梵网经》、《摩诃般若波罗蜜经》、《成实论》、《弥勒成佛经》、《坐禅三昧经》、《维摩诘所说经》、《大智度论》等。ท่าน กุมารชีพพำนักอยู่นครฉางอานเป็นเวลา 12 ปี ได้แปลพระคัมภีร์รวม 714 หมวด 384 เล่ม มีพระสูตรสำคัญ อาทิ “สัทธรรมปุณฑริกสูตร” “อมิตยุสูตร” “ทศภูมิวิภาษาสูตร” “มาธยมิกศาสตร์” “ศตศาสตร์” “ทวาทศะนิกายศาสตร์” “วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร” “พรหมชาลสูตร” “มหาปรัชญาปารมิตาสูตร” “สัตยสิทธิศาสตร์” “ไมตรียพุทธ-สัมปทาสูตร” สมาธินสัชชาสูตร” “วิมลกีรตินิทเทศสูตร” และ “มหาปรัชญาปารมิตาศาสตร์”
|
|
在鸠摩罗什所译的佛经中,论部多于经部。他的汉译佛经,为中国的佛教哲学奠定了坚实的理论基础。在鸠摩罗什到长安之前,中国主要奉行小乘佛教,对大乘佛教知之甚少,是鸠摩罗什把大乘佛教传播到中国,使之在中国发扬光大。 ใน งานแปลพระสูตรทั้งหลายของท่านกุมารชีพนั้น ภาคที่ว่าด้วยศาสตร์จะมีมากกว่าพระสูตร พระสูตรที่แปลเป็นภาษาจีนของท่านได้วางรากฐานอันเข็งแกร่งให้กับพุทธปรัชญา ในประเทศจีน เพราะก่อนที่ท่านกุมารชีพจะมาอยู่นครฉางอาน ประเทศจีนยังนับถือนิกายหินยานเป็นหลัก ส่วนนิกายมหายานเป็นที่รู้จักน้อยมาก นิกายมหายานถ่ายทอดถึงประเทศจีนได้ก็เพราะท่านกุมารชีพเป็นผู้เผยแพร่ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศจีน
|
|
鸠摩罗什门下人才辈出,最杰出的被称为“关中四圣”或“什门四杰”,也有被称为“八俊”或“十哲”的他们是:道生、僧肇、道融、僧?、道恒、慧观、慧 严、僧影、昙影、僧契、道标。他们后来各自教化一方,著作也很丰富,如道生的《二谛论》、《法华经疏》,僧肇的《肇论》等。 สำนักของท่านกุมารชีพ มีปัญญาชนที่มีความรู้ ความสามารถเป็นเลิศจนเป็นที่เลื่องลือได้รับการยกย่องเป็น “สี่สุดยอดแห่งสำนัก” หรือ “สี่อัจฉริยะแห่งสำนักเสอ” รวมทั้งได้รับการยกย่องเป็น “แปดสง่างามล้ำเลิศ” หรือสิบปรัชญาเมธี” ท่านเหล่านี้ คือ เต้าเซิง เจิงจ้าว เต้าหยง เจิงยุ่ย เต้าเหิง ฮุ่ยกวาน ฮุยเอี๋ยน เจิงอิ่ง เซียนอิ่ง เจิงซี่ และเต้าเปี่ยว ต่อมาภายหลัง แต่ละท่านได้นำคำสอนออกเผยแพร่ไปทั่วทุกแห่งหน บทประพันธ์ก็มีมากมาย เช่น บทประพันธ์ “ทวิสัตยศาสตร์” “สัทธรรมปุณฑรีกสูตรฎีกา” ของเต้าเซิง “อภิเษกศาสตร์” ของเจิงจ้าวเป็นต้น
|
|
鸠摩罗什把一生都献给了佛教事业。他自七岁随母出家后,既游学各国,孜孜不倦地学习佛法,传播佛学。在长安的十二年中,致力于汉译佛经的伟大工程,为中土培养了大批的佛教人才,为佛教在中国的发展,作出了巨大贡献;中国的佛教思想,也因此而源远流长。ตลอด ชีวิตของท่านกุมารชีพ มีปณิธานที่จะอุทิศกำลังกายใจและสติปัญญาเพื่อภารกิจแห่งพุทธศาสนา เมื่ออายุ 7 ปี ก็ติดตามพระมารดาออกบวช และจารึกไปยังแว่นแคว้นต่างๆ มุ่งมั่นไม่ท้อถอยในการศึกษาพระคัมภีร์และเผยแพร่พุทธศาสนา ช่วงเวลา 12 ปีที่อยู่นครฉางอาน ก็ได้ทุ่มเทแรงกายมหาศาลในการแปลคัมภีร์ของพุทธศาสนา และฟูมฟักส่งเสริมปัญญาชนมากมายให้แก่ประเทศจีน เพื่อให้พุทธศาสนาได้แผ่ขยายรุ่งเรืองต่อไป ในประเทศจีน ท่านได้อุทิศผลงานอันล้ำค่า คือการสร้างทัศนคติเกี่ยวกับพุทธศาสนานิกายมหายานให้เกิดศรัทธาขึ้นในประเทศ จีน และยั่งยืนสถาวรสืบมา
|